xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ ยอมรับยัง “ห่างไกล” แก้ไขข้อพิพาททางการค้ากับจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

 วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ
เอเอฟพี - วอชิงตันและปักกิ่งยังคงห่างไกลจาการคลี่คลายสงครามการค้าระหว่างกัน จากการเปิดเผยของ วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (24 ม.ค.)

คณะผู้แทนระดับสูงของจีนมีกำหนดเดินทางมายังกรุงวอชิงตันในสัปดาห์หน้า เพื่อเจรจาคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าให้ทันก่อนวันที่ 1 มีนาคม ซึ่งจะสิ้นสุดระยะเวลาสงบศึกทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน และถึงกำหนดที่อเมริกาจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีกระลอก หากทั้งสองประเทศไม่สามารถเจรจากันได้

อย่างไรก็ตาม รอสส์ พยายามสยบความคาดหมายที่มีต่อการประชุมดังกล่าว “มีการคาดเดาล่วงหน้ามากมายว่าเราจบงานแล้ว แต่เรายังอยู่ห่างไกลจากการได้ทางออกและไม่ควรต้องจะแปลกใจอะไร” รอสส์ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซี

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงหนักกว่าเดิมระหว่างที่เขาให้สัมภาษณ์ ซึ่งมีขึ้น 1 วันหลังจากทำเนียบขาวเพิ่งออกมาปฏิเสธข่าวที่ระบุว่าการเจรจาทางการค้าประสบกับอุปสรรคร้ายแรง

ในขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังตกอยู่ท่ามกลางความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ ความเป็นไปได้แห่งความล้มเหลวของการเจรจาระหว่างสหรัฐฯกับจีนได้สั่นคลอนตลาดทุนซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดปีที่ผ่านมา

วอชิงตันกล่าวหาปักกิ่งมีพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่ยุติธรรมต่างๆนาน โดยเฉพาะการขโมยองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ

รอสส์ บอกว่ายังมีโอกาสพอสมควรที่จะบรรลุข้อตกลงกับปักกิ่ง แต่ก็มีงานที่ต้องทำอีกมาก เนื่องจากข้อพิพาทนั้นเกี่ยวข้องกับประเด็นต่างๆที่ยากที่แก้ปัญหาได้ในกรอบเวลาอันสั้น

“เราต้องการที่จะทำข้อตกลง แต่ต้องเป็นข้อตกลงที่ใช้ได้กับทั้งสองฝ่าย และขณะนี้เรากำลังอยู่ห่างกันเป็นไมล์ๆ จากการบรรลุข้อตกลง” นายรอสส์กล่าว “ผมคิดว่าจีนก็ต้องการข้อตกลง ผมเชื่อว่าเราก็อยากได้ข้อตกลง แต่มันจำเป็นต้องเป็นข้อตกลงที่ได้ผลสำหรับสองฝ่าย”

“ผมพยายามบอกกับทุกคนว่าอย่าได้คาดหวังว่าเหตุการณ์ต่างๆ ในสัปดาห์หน้า จะเป็นทางออกทั้งหมดของประเด็นต่างๆ ระหว่างสหรัฐฯ และจีน” รอสส์ระบุ

เมื่อปีที่แล้ว วอชิงตันและปักกิ่ง ต่างรีดภาษีตอบโต้กันไปมา คิดเป็นมูลค่ากว่า 360,000 ล้านดอลลาร์ในการค้าแบบ 2 ทาง และมันกลายเป็นชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ

แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้กลยุทธ์แข็งกร้าวกับจีน แต่ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับปักกิ่งก็ยังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ย้ำให้เห็นว่าภาคอุตสากรรมของสหรัฐฯ นั้นต้องพึ่งพิงฐานการผลิตของจีนมากแค่ไหน
กำลังโหลดความคิดเห็น