รอยเตอร์ - เจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงานอังกฤษ เดินเกมช่วงชิงอำนาจการควบคุมเบร็กซิตในสภาจากนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ เพื่อปูทางสู่การทำประชามติรอบสองเกี่ยวกับการถอนตัวจากอียู ขณะที่เมย์ ยังยืนยันว่า การทำประชามติจะเข้าทางกลุ่มที่ต้องการให้สหราชอาณาจักรแตก รวมทั้งอาจทำลายความสามัคคีในสังคม
หลังจากข้อตกลงถอนตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ “เบร็กซิต” ของเมย์ ถูกรัฐสภาอังกฤษคว่ำด้วยคะแนนทิ้งห่าง 432-202 เสียง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดของหัวหน้ารัฐบาลในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของอังกฤษ มาตอนนี้สมาชิกสภาบางส่วนกำลังพยายามเข้าควบคุมเบร็กซิตแทนที่รัฐบาลเสียงข้างน้อยที่กำลังอ่อนระโหยโรยแรงของเมย์
พรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักกำลังผลักดันร่างแก้ไขเพื่อบีบให้รัฐบาลขยายเวลาให้สภาในการพิจารณาและโหวตตัวเลือกต่างๆ เพื่อป้องกันการถอนตัวโดยปราศจากข้อตกลง ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เมย์ปฏิเสธที่จะตัดออกมาโดยตลอด
ตัวเลือกต่างๆ ของพรรคแรงงาน ยังรวมถึงสหภาพศุลกากรถาวรกับบรัสเซลส์ และการทำประชามติเกี่ยวกับข้อตกลงถอนตัว ซึ่งล้วนเป็นข้อเสนอที่เมย์ไม่เห็นด้วย
พรรคแรงงานซึ่งมีความเห็นแตกแยกกันเรื่องเบร็กซิต ยืนยันว่า ข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้หมายความว่า พรรคสนับสนุนการทำประชามติรอบสองและแทบไม่ได้สะท้อนนโยบายปัจจุบันของพรรคแต่อย่างใด คอร์บินสำทับด้วยว่า ถึงเวลาแล้วที่สภาจะต้องพิจารณาแผนการทางเลือกของพรรคแรงงาน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้สมาชิกได้ลงมติเกี่ยวกับตัวเลือกต่างๆ เพื่อผ่าทางตันเบร็กซิต และป้องกันการถอนตัวโดยไม่มีข้อตกลง
อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ร่างแก้ไขของพรรคแรงงานจะได้รับการสนับสนุนในสภาหรือไม่ หรือตัวเลือกใดที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะเป็นตัวเลือกสุดท้ายของพรรคนี้
รัฐสภาอังกฤษที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาถึง 1,000 ปี และกำลังพยายามหลีกเลี่ยงการถอนตัวจากอียูอย่างชุลมุนวุ่นวายโดยปราศจากข้อตกลงที่ได้รับการอนุมัติ จะอภิปรายและโหวตในขั้นตอนต่อไปวันอังคารหน้า (29 ม.ค.) โดยที่ จอห์น เบอร์โคว์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะตัดสินว่า จะนำร่างแก้ไขใดเข้าสู่การลงมติของสภา
เมื่อวันจันทร์ (21 ม.ค.) เมย์เสนอเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเบร็กซิต เพื่อโน้มน้าวสมาชิกขบถในพรรคอนุรักษนิยมของตนเอง รวมทั้งพรรคการเมืองของไอร์แลนด์เหนือที่สนับสนุนรัฐบาลของเธอมาตลอด ทว่า พรรคแรงงานระบุ เมย์ ไม่ยอมเชื่อว่า แผนการของตนจะถูกทำลายย่อยยับ
ทางด้านผู้นำหญิงของอังกฤษ กล่าวว่า การทำประชามติจะเข้าทางกลุ่มที่ต้องการให้สหราชอาณาจักรแตก รวมทั้งอาจทำลายความสามัคคีในสังคมจากการบ่อนทำลายศรัทธาที่มีต่อประชาธิปไตย
นับจากที่ประชาชนในสหราชอาณาจักรลงมติด้วยคะแนน 52-48 เพื่อถอนตัวจากอียูในเดือนมิถุนายน 2016 นักการเมืองอังกฤษยังไม่สามารถตกลงกันได้ว่า จะถอนตัวอย่างไรหรือถอนตัวหรือไม่
หากไม่มีข้อตกลงหรือทางเลือกที่ได้รับอนุมัติ ประเทศเศรษฐกิจอันดับ 5 แห่งนี้ จะต้องกลับไปใช้กฎพื้นฐานขององค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) นับจากวันที่ 29 มีนาคม เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นฝันร้ายสำหรับผู้ผลิตที่พึ่งพิงห่วงโซ่อุปทานอันละเอียดอ่อนทั่วยุโรปและภูมิภาคอื่นๆ
ผู้บริหารภาคธุรกิจต่างช็อกกับวิกฤตการเมืองครั้งรุนแรงที่สุดนี้ ที่กำลังทำลายชื่อเสียงของอังกฤษในฐานะจุดหมายปลายทางการลงทุนของต่างชาติที่โดดเด่นในยุโรป
แคสเปอร์ รอร์สเต็ด นายใหญ่อาดิดาส บริษัทผลิตชุดกีฬาชื่อดังของเยอรมนี ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า เบร็กซิตเป็นการตัดสินใจทางเศรษฐกิจที่โง่เขลาที่สุดในระยะยาว และอาจเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น เมื่อถูกถามว่า ควรหลีกเลี่ยงเบร็กซิตหรือไม่ เขาตอบว่า รถไฟออกจากสถานีไปแล้ว แต่เขาหวังว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะเริ่มครุ่นคิดพิจารณาเรื่องนี้ด้วยเหตุผล
ทั้งนี้ ผู้สนับสนุนเบร็กซิต ระบุว่า แม้อาจมีการสะดุดช่วงสั้นๆ แต่คำเตือนเกี่ยวกับความวุ่นวายเป็นการวาดภาพเลวร้ายเกินจริง และในระยะยาวสหราชอาณาจักรจะเติบโตรุดหน้า หากตัดขาดจากการทดสอบความเป็นเอกภาพของยุโรปที่ครอบงำโดยเยอรมนี