เอเอฟพี - ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 73 รายแล้วหลังท่อส่งน้ำมันที่เกิดการติดขัดเนื่องมาจากโจรขโมยน้ำมันเกิดระเบิดขึ้นในภาคกลางของเม็กซิโก เจ้าหน้าที่กล่าวในวันเสาร์(19 ม.ค) ขณะที่ประธานาธิบดีเม็กซิโกออกมาปกป้องกองทัพถึงแม้ว่า เจ้าหน้าที่ทหารเม็กซิโกจะพลาด ไม่สามารถทำให้สถานที่เกิดเหตุร้างผู้คนได้ทันก่อนระเบิด
เอเอฟพีรายงานวันนนี้(20 ม.ค)ว่า ผู้ว่าการรัฐอีดัลโก(Hidalgo) โอมาร์ ฟายัด(Omar Fayad) ประกาศตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดเป็น 73 ราย หลังจากมีการค้นพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 รายล่าสุด
การระเบิดของท่อสายส่งน้ำมันทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 74 ราย ที่เกิดขึ้นใกล้กับเมืองฮูเอลอิลปัน (Tlahuelilpan ) ที่มีประชากรอาศัยร่วม 20,000 คนห่างจากกรุงเม็กซิโก ซิตีไปทางเหนือราว 1 ชัวโมงจากการขับรถ
สถานที่เกิดเหตุ พบมีทหารเฝ้ารักษาความปลอดภัยในพื้นที่ซึ่งยังมีควันโขมงโชยขึ้นฟ้า พร้อมกับกลิ่นเหม็นไหม้คละคลุ้ง ท่ามกลางการทำงานของเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ในชุดสีขาวที่กำลังตรวจศพผู้เสียชีวิตที่ไหม้จนดำเป็นตอตะโก ที่มีบางส่วนเสียชีวิตในท่าทางที่ผิดธรรมชาติ คาดว่าเกิดขึ้นอย่างฉับพลันหลังคนเหล่านั้นได้จบชีวิตลง
และเมื่อทางเจ้าหน้าที่ได้เริ่มต้นการขนร่างผู้เสียชีวิตขึ้นรถตู้เพื่อที่จะนำออกไป พบมีชาวหมู่บ้านจำนวนราว 30 คนพยายามที่จะหยุดพวกเขา พร้อมเรียกร้องให้คืนร่างญาติที่เสียชีวิตออกมา พร้อมชี้ว่าสถานณาปณกิจนั้นมีราคาสูงเกินกว่าที่จะรับได้ แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เม็กซิโกชี้ว่า ศพเหล่านั้นถูกนำไปเก็บไว้ภายในห้องดับจิตได้ในที่สุด
ด้านประธานาธิบดีเม็กซิโกคนใหม่ อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ได้เดินทางไปตรวจจุดเกิดเหตุในวันเสาร์(19) แต่เขาไม่ได้กล่าวตำหนิกองทัพเม็กซิโกที่ไม่สามารถกั้นฝูงชนร่วม 700 คนไม่ให้เข้าไปตักน้ำมันที่รั่วหกออกมาในวันศุกร์(18)ได้ โดยมีทหารจำนวน 25 นายถูกส่งไปในที่เกิดเหตุวันศุกร์(18) ซึ่งพบว่ากองกำลังถูกเคลื่อนย้ายออกไปเพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝูงชนก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้น เอเอฟพีชี้
แต่ทว่าในการแถลงของผู้นำเม็กซิโก เขายังคงประกาศที่จะกวาดล้างโจรขโมยน้ำมันในเม็กซิโกอย่างหนักต่อไป
“สิ่งที่ทางกองทัพมองนั้นถูกต้อง” โลเปซ โอบราดอร์กล่าว และเสริมว่า “มันเป็นสิ่งที่ยากในการบังคับใช้การควบคุมกับฝูงชน”
ด้านรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและมาตุภูมิสหรัฐฯ คริสเจน นีลเซน (Kirstjen Nielsen) ทวีตแสดงความช่วยเหลือเม็กซิโกโดยกล่าวว่า ทางกระทรวงของเธอพร้อมที่จะให้การสนับสนุนภารกิจกู้ภัยและรัฐบาลเม็กซิโกถึงสิ่งใดๆที่เป็นไปได้ทั้งหมด
ด้านรักษาอัยการสูงสุดเม็กซิโก อเลฮันโดร เกิร์ตซ์(Alejandro Gertz)กล่าวถึงเหตุการณ์ท่อส่งน้ำมันระเบิดว่า ***เป็นสิ่งที่จงใจทำขึ้น*** เพราะมีใครบางคนทำให้ท่อส่งเกิดรั่ว และไฟไหม้ตามมาจากผลของการกระทำนั้น
เอเอฟพีชี้ว่า สถานพยาบาลต่างเต็มไปด้วยเหยื่อท่อส่งน้ำมันระเบิด โดยไฟไหม้สามารถถูกควบคุมได้สำเร็จในช่วงคืนวันศุกร์(18) กระทรวงความมั่นคงเม็กซิโกแถลง
ฟายัด ผู้ว่าการรัฐแถลงต่อว่า “2 ชั่วโมงหลังจากท่อส่งถูกเจาะ ทางเราได้รับแจ้งว่ามีการระเบิดเกิดขึ้น และลูกไฟได้ทำลายทุกสิ่งโดยรอบ”
เอเอฟพีรายงานว่า โศกนาฎกรรมครั้งร้ายแรงเกิดมาจากนโยบายทำสงครามสู้โจรขโมยน้ำมันของ
โลเปซ โอบราดอร์
ซึ่งได้มีการปิดท่องส่งน้ำมันหลักเพื่อทำให้ทางรัฐบาลสามารถสืบหาตัวโจรขโมยน้ำมันได้ แต่นโยบายนี้กลับทำให้ประชาชนชาวเม็กซิกันเดือดร้อนอย่างหนัก เห็นประชาชนต่อแถวเข้าคิวซื่อน้ำมันดีเซลและแก๊สโซลีนเนื่องมาจากน้ำมันเกิดการขาดตลาดอย่างร้ายแรง
และชาวบ้านในที่เกิดเหตุได้กล่าวโทษไปถึงการขาดตลาดของเชื้อเพลิงส่งผลทำให้เกิดเหตุน่าสลด
“คนเหล่านี้จำนวนมากมาพร้อมแกลอนน้ำมันในมือเพราะจากปัญหาการขาดแคลนน้ำมันที่พวกเรากำลังประสบ” มาร์ติน เตรโฮ(Martin Trejo) วัย 55 ปีที่อยู่ในระหว่างการออกตามหาบุตรชายที่ได้ออกมาร่วมตักน้ำมันหกกับคนอื่นๆ และได้กล่ามประณามไปที่กองทัพเม็กซิโกที่ไม่สามารถหยุดการขโมยน้ำมันได้ โดยชี้ไปว่า
“ชีวิตคนเหล่านี้สามารถช่วยเหลือไว้ได้หากว่าพวกเขาทำหน้าที่ของตัวเอง ด้วยการนำคนเหล่านี้ออกไปและกันไม่ให้เข้าใกล้ พวกนี้ไม่เคยทำอะไร”
ธนาคารเม็กซิกัน ซิตีบานาเม็กซ์ (Citibanamex) ได้ออกมาประเมินในวันพุธ(16)ว่า การขาดแคลนเชื่อเพลิงพลังงานส่งผลต่อประเทศเม็กซิโกที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคราว 2 พันล้านดอลลาร์ “หากว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติในไม่กี่วันนี้” เอเอฟพีรายงาน
