เอพี/เอเอฟพี - ทหารสหรัฐฯ 2 นายและพลเรือนอเมริกันอีก 2 รายเสียชีวิตรวมในกลุ่มที่ถูกสังหารจากระเบิดฆ่าตัวตายระหว่างการลาดตระเวนที่เมืองมานบิจ ซีเรียในวันพุธ(16 ม.ค) กองทัพสหรัฐฯแถลง ด้านกลุ่มก่อการร้าย IS ประกาศแสดงความรับผิดชอบ ด้านกลุ่มสังเกตการณ์ซีเรียเพื่อสิทธิมนุษยชน SOHRชี้ มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 16 ราย ที่รวมไปถึงพลเรือน 9 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่งรวมถึงทหารสหรัฐฯอีก 3 นาย
เอพีรายงานวันนี้(17 ม.ค)ว่า กลุ่มก่อการร้าย IS ล่าสุดออกมาประกาศรับความผิดชอบของเหตุระเบิดโจมตีช่วงเช้า ซึ่งกลุ่มท้องถิ่นต่างกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตไปทั้งหมด 16 รายในเมืองมานบิจ(Manbij) ซึ่งเป็นเมืองที่ทหารสหรัฐฯลาดตระเวนคุ้มกัน
การออกมาประกาศความรับผิดชอบทำให้มีคำถามกลับไปถึงคำประกาศของผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนหน้าที่ได้อ้างว่า สามารถปราบกลุ่ม IS ได้อย่างราบคาบในซีเรียแล้ว ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทรัมป์ใช้เพื่อประกาศถอนกำลังทหารสหรัฐฯจำนวน 2,000 นายกลับประเทศ
ด้านรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ ได้ออกมาอ้างเช่นกันในวันพุธ(16) โดยกล่าวว่า “กลุ่มสาธารณรัฐอิสลาม(IS)ได้กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และเครือข่ายของกลุ่มติดอาวุธถูกเอาชนะในที่สุด”
ซึ่งการให้ความเห็นของเพนซ์เกิดขึ้นในการแถลงกับการประชุมเอกอัครราชทูตสหรัฐฯจากทั่วโลกที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ไม่นานหลังจากกองทัพสหรัฐฯได้แถลงว่า ทหารอเมริกันอยู่ในกลุ่มผู้ที่ถูกสังหารในมานบิจ
กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ(U.S. Central Command) แถลงว่า ผู้เสียชีวิตพลเรือนสหรัฐฯ 2 รายนั้น 1 ในนั้นเป็นเจ้าหน้าที่พลเรือนที่ทำงานให้กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ส่วนอีกรายเป็นลูกจ้างคอนแทร็กจากภายนอก
โดยในแถลงการณ์ของกระทรวงหลาโหมสหรัฐฯอ้างอิงจากเอเอฟพีระบุว่า ผู้เสียชีวิตรวมไปถึง นายทหารสหรัฐฯ 2 นาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนสังกัดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ DoD 1 คน และเจ้าหน้าที่คอนแทร็กสนับสนุนของเพนตากอนอีก 1 คน
วิดีโอคลิปที่ถูกเปิดเผยจากนักเคลื่อนไหวท้องถิ่นและสำนักข่าวแสดงให้เห็นภาพร้านอาหารได้รับความเสียหายอย่างหนัก ส่วนถนนถูกปกคลุมไปด้วยเศษซากปรักหักพังจากแรงระเบิดและเลือด
นอกจากนี้ยังมีรถอีกจำนวนเล็กน้อยเสียหายจากระเบิด ส่วนวิดีโอคลิปอีกชิ้นแสดงให้เห็นถึงฮ.กำลังบินอยู่เหนือพื้นที่
ส่วนภาพจากกล้องทีวีวงจรปิดแสดงให้เห็นสภาพถนนที่กำลังวุ่นวาย และอีกซักพักเกิดลูกไฟได้เผาไหม้ร่างของผู้คน ในขณะที่คนอื่นๆรีบวิ่งหาที่กำบังหลังเกิดระเบิดขึ้น
เอเอฟพีชี้ว่า เป็นการโจมตีที่เกิดมาจากมือระเบิดฆ่าตัวตาย ซึ่งอ้างอิงจากตัวเลขสถิติของเพนตากอน พบว่าการโจมตีในวันพุธ(16) ถือเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดต่อกองกำลังสหรัฐฯนับตั้งแต่ถูกส่งเข้าไปเมื่อปี 2014
เอพีรายงานว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมากองทัพสหรัฐฯเริ่มต้นถอนยุทโธปกรณ์ทางการทหารออกจากทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียเข้าสู่พื้นที่อิรักซึ่งอยู่ติดกัน แต่ในเวลานี้ยังไม่พบมีการถอนกำลังทหารออกไป
ทั้งนี้ “มานบิจ” ถือเป็นเมืองสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตะวันตกไกลของซีเรีย ถูกยึดครองไว้โดยกลุ่มซีเรียเคิร์ดที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ โดยกองกำลังผสมระหว่างเคิร์ดและชาวซีเรียเชื้อสายอาหรับสามารถปลดปล่อยเมืองมานบิจจากการยึดครองของกลุ่ม IS ภายใต้ความช่วยเหลือของสหรัฐฯในปี 2016
แต่ทว่าการที่กลุ่มเคิร์ดเข้ายึดครองมานบิจกลับสร้างความไม่พอใจให้กับตุรกี โดยกลุ่มกองกำลังเคิร์ด YPG ที่ถือเป็นกองกำลังพันธมิตรหลักของสหรัฐฯในการต่อสู้กับ กลุ่ม IS แต่ถูกตุรกีมองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย และยังเชื่อมโยงกับกลุ่มเคิร์ดที่ก่อความไม่สงบในประเทศตุรกี
เมืองมานบิจกลายเป็นศูนย์กลางความตรึงเครียดในทางภาคเหนือของซีเรีย ที่มีกองทัพของชาติสมาชิกนาโต สหรัฐฯและตุรกีที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ทั้ง 2 ชาติเริ่มต้นเดินตรวจการร่วมกันเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว จากส่วนหนึ่งของข้อตกลงเพื่อลดความตรึงเครียดระหว่าง 2 ชาติ
เอพีรายงานว่า กลุ่มสังเกตการณ์ซีเรียเพื่อสิทธิมนุษยชน SOHR ที่มีฐานอยู่ในอังกฤษได้แถลงถึงจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดในมานบิจเมื่อวันพุธ(16)ว่า มีทั้งหมด 16 คน รวมไปถึงพลเรือน 9 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง
ทางกลุ่มแถลงเพิ่มเติมว่า มีสมาชิกกองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ 5 คนรวมอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิต
ในขณะที่สำนักข่าวอนาโดลูของรัฐบาลตุรกีรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวในพื้นที่ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า มีทหารสหรัฐฯจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากระเบิด และกองทัพสหรัฐฯอพยพทหารผ่านทางเฮลิคอปเตอร์ โดยเอเอฟพีอ้างอิงการแถลงของกองทัพสหรัฐฯที่ได้ระบุว่า มีกองกำลังทหารอเมริกัน 3 นายได้รับบาดเจ็บ