เอเอฟพี - สหภาพยุโรป (อียู) และผู้นำอีกหลายประเทศแถลงเตือนวานนี้ (15 ม.ค.) ว่าอังกฤษเสี่ยงที่จะต้องหลุดออกจากอียูโดยปราศจากแผนรองรับใดๆ หลังจากสภาผู้แทนราษฎร (สภาสามัญ) ลงมติท่วมท้นปฏิเสธข้อตกลงเบร็กซิตของนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ พร้อมทั้งยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของเธอ
สภาสามัญลงมติ 432 ต่อ 202 เสียงคัดค้านแผนของ เมย์ สำหรับการถอนอังกฤษออกจากอียูหลังเข้าร่วมกลุ่มมานานเกือบ 5 ทศวรรษ กลายเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดหนหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษรายหนึ่งๆ ต้องประสบ
“ผมขอให้สหราชอาณาจักรแสดงเจตนารมณ์ให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุด เวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว” ฌอง-โคลด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุในถ้อยแถลง
“ข้อตกลงฉบับนี้คือการประนีประนอมที่เป็นธรรม และเป็นข้อตกลงที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว มันจะช่วยบรรเทาความสูญเสียต่อพลเมืองและภาคธุรกิจทั่วยุโรป และเป็นหนทางเดียวที่จะรับรองได้ว่า การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษจะเป็นไปอย่างเรียบร้อย”
“ผลโหวตเมื่อช่วงค่ำวันนี้ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่อังกฤษจะต้องถอนตัวอย่างไร้แผนรองรับ แม้เราจะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้น แต่คณะกรรมาธิการยุโรปก็จะเตรียมร่างแผนฉุกเฉิน เพื่อให้มั่นใจว่าอียูพร้อมรับสถานการณ์เต็มที่”
ด้านประธานสภายุโรป โดนัลด์ ทัสก์ ยืนยันว่า รัฐสมาชิกที่อียูที่เหลืออีก 27 ประเทศ “จะยังคงรวมกันเป็นหนึ่ง” ขณะที่ มิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาเบร็กซิตของอียู เรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษ “ออกมาพูดว่าจะทำอย่างไรต่อไป ส่วนอียูนั้นยังคงมีเอกภาพ และมุ่งมั่นที่จะแสวงหาข้อตกลงให้ได้”
รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเยอรมนีและรองนายกรัฐมนตรี โอลาฟ โชลซ์ ระบุว่า “นี่คือวันที่ขมขื่นสำหรับยุโรป แม้เราจะเตรียมพร้อมอย่างดี แต่ ‘ฮาร์ดเบร็กซิต’ เป็นตัวเลือกที่ไม่พึงปรารถนาที่สุดสำหรับทั้งอียูและอังกฤษ”
อานน์เกร็ต ครัมป์ คาเรนเบาเออร์ เลขาธิการพรรคคริสเตียนเดโมเครติกยูเนียน (CDU) ของนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล เตือนว่า “ฮาร์ดเบร็กซิตจะเป็นทางเลือกที่เลวร้ายที่สุด”
ด้านประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ชี้ว่า “แรงกดดันส่วนใหญ่อยู่ที่พวกเขา” ซึ่งหมายถึงอังกฤษ และเตือนว่าการถอนตัวแบบไร้ข้อตกลงจะทำให้ชาวเมืองผู้ดีกลายเป็น “ผู้แพ้ตัวจริง”
“ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร เราก็ต้องเจรจาเพื่อกำหนดแนวทางในช่วงเปลี่ยนผ่านกับพวกเขา เพราะชาวอังกฤษคงยอมไม่ได้หากจะไม่มีเครื่องบินขึ้นและลงจอดที่สนามบินของพวกเขา และซุปเปอร์มาร์เก็ตในอังกฤษ 70 เปอร์เซ็นต์ก็ต้องพึ่งสินค้าจากยุโรปภาคพื้นทวีป”
รัฐบาลไอร์แลนด์แถลงว่า ผลโหวตของสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ “เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ และเสี่ยงที่จะทำให้เบร็กซิตไม่ราบรื่น ซึ่งรัฐบาลไอร์แลนด์จะเตรียมความพร้อมให้มากยิ่งขึ้นเพื่อรับมือกับผลที่จะตามมา”
นายกรัฐมนตรีเซบาสเตียน คูร์ซ แห่งออสเตรีย กล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า “ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่มีการเจรจาข้อตกลงถอนตัวกันใหม่” ขณะที่นายกรัฐมนตรีเปโดร ชานเชซ แห่งสเปน ก็ย้ำเตือนว่า “การถอนตัวแบบไร้ข้อตกลงจะส่งผลเสียต่ออียู และเป็นหายนะสำหรับอังกฤษเอง”