เดลีเมล์ - นักวิทยาศาสตร์หญิงชาวอินโดนีเซียรายหนึ่งเชื่อว่าถูกจระเข้กินทั้งเป็น หลังถูกจระเข้ตัวดังกล่าวกระโจนงับตอนที่เธอให้อาหารมันภายในศูนย์วิจัยแห่งหนึ่งซึ่งเธอทำงานอยู่
เดียซีย์ ทูโว วัย 44 ปี ถูกจระเข้ยาว 17 ฟุต ลากลงบ่อ ตอนที่เธอกำลังขว้างอาหารไปในน้ำระหว่างการให้อาหารจระเข้ ณ ศูนย์วิจัย ในสุลาเวสีเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว จากนั้นพบว่าเจ้าจระเข้ชื่อ “เมอร์รี” มีเศษชิ้นส่วนร่างกายของ ทูโว อยู่ในเขี้ยวของมัน
พวกเจ้าหน้าที่เชื่อว่าจระเข้ตัวนี้ใช้ขาหลังกระโจนขึ้นมาเหนือกำแพงสูง 8 ฟุตแล้วลากเธอลงไปในบ่อ โดยพนักงานคนอื่นๆ ของศูนย์วิจัย CV Yosiki Laboratory ทราบเรื่องราวอันน่าสยดสยองนี้ในอีกไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นบางอย่างรูปทรงแปลกๆ ในน้ำ และพอกวาดสายตามองไปทั่วๆ ก็พบจระเข้นอนอยู่กับพื้นโดยมีเศษซากศพของทูโวอยู่ภายในเขี้ยวของมัน
จากข้อมูลพบว่า จระเข้ตัวหนึ่งซึ่งได้รับอาหารเป็นไก่สด, ทูน่า และเนื้อในทุกๆ วัน เคยทำร้ายจระเข้ตัวอื่นๆ มาแล้วในอดีต แต่เจ้าหน้าที่ไม่เคยคิดว่ามันจะทำร้ายมนุษย์มาก่อนเลย
หน่วยกู้ภัยต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะเอาศพของทูโวออกมาจากจระเข้ เนื่องจากมันตอบโต้ด้วยความเกรี้ยวกราดทุกครั้งตอนที่พวกเขาพยายามดึงศพขึ้นจากน้ำ
Female scientist is eaten alive by crocodile after it drags her into its enclosure https://t.co/HxQg0uTcDI
— Daily Mail Online (@MailOnline) January 14, 2019
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วเจ้าหน้าที่ก็สามารถกู้ศพ พร้อมจับจระเข้ตัวนี้ได้แล้วในวันจันทร์ (14 ม.ค.) และมันจะถูกเคลื่อนย้ายนำไปตรวจอย่างละเอียดเพื่อยืนยันว่ามันได้กินอวัยวะของมนุษย์เข้าไปจริงหรือไม่
เพื่อนๆ เผยว่า ทูโว เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของศูนย์วิจัย และเธอเป็นคนเงียบๆ แต่รักสัตว์
ส่วน เออร์ลิง รูเมนกัน เพื่อนร่วมงานอีกคนของ ทูโว เล่าว่า “เรารู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ ตอนที่มองลงไปยังบ่อจระเข้ มีบางอย่างลอยอยู่ในนั้น มันเป็นศพของเดียซีย์ เราไม่กล้าแตะต้องมัน และเราแจ้งเรื่องไปยังสถานีตำรวจทอมบาริริในทันที เป็นไปได้ว่าจระเข้ได้กระโดดจากด้านข้าง บางทีเพราะจระเข้ยังอิ่มอยู่ มันจึงยังกินศพเธอไม่หมด”
จระเข้เมอร์รีถูกเคลื่อนย้ายปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าในเขตบิตุง เพื่อทำการตรวจกระเพาะของมัน เพื่อยืนยันว่าข้อสันนิษฐานของพวกเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
ด้านตำรวจเผยว่า กำลังอยู่ระหว่างตามล่าเจ้าของจระเข้ ด้วยเชื่อว่าเจ้าของเป็นนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้เปิดศูนย์วิจัยดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ชายรายนี้ไม่ได้อยู่ในศูนย์วิจัยตอนเกิดเหตุ “เราอยากรู้ว่าเขาได้รับอนุญาตให้ครอบครองจระเข้อย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เช่นเดียวกับสัตว์น้ำแพงๆ อื่นๆ ในบริษัทของเขา ถ้าไม่มีใบอนุญาต เขาจะถูกควบคุมตัว”