เอเอฟพี - ตุลสี กับบาร์ด (Tulsi Gabbard) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครตจากรัฐฮาวายซึ่งเป็นทหารผ่านศึกในสงครามซีเรีย และเคยได้พบกับประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด มาแล้ว ประกาศตัวลงชิงชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020
กับบาร์ด ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นวานนี้ (11 ม.ค.) ว่า “ดิฉันตัดสินใจที่จะลงสมัครประธานาธิบดี และจะแถลงอย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์หน้า”
หากได้รับชัยชนะตามที่หวัง ตุลสี วัย 37 ปี จะเป็นประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ หลังจากที่วันนี้เธอเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายซามัวและชาวฮินดูคนแรกที่ได้รับเลือกเข้าสู่สภาคองเกรส
“ดิฉันตัดสินใจด้วยเหตุผลหลายอย่าง สังคมอเมริกันกำลังเผชิญความท้าทายนานาประการ ซึ่งดิฉันรู้สึกกังวล และต้องการที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้” เธอกล่าว พร้อมเอ่ยถึงประเด็นต่างๆ เช่น โอกาสในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น
กับบาร์ด เป็นหนึ่งในคณะกรรมการกิจการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีส่วนในการกำหนดทิศทางนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ
“เรื่องหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นแกนกลางของปัญหาทั้งหมดก็คือ สงครามกับสันติภาพ” กับบาร์ด กล่าว “ดิฉันจะลงรายละเอียดในประเด็นนี้อีกครั้ง หลังจากที่ประกาศลงสมัครอย่างเป็นทางการ”
กับบาร์ด เกิดที่ดินแดนอเมริกันซามัวและเติบโตในรัฐฮาวาย ซึ่งทำให้เธอมีความคล้ายคลึงกับ บารัค โอบามา ซึ่งเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนแรกที่เกิดและโตในรัฐฮาวาย
หลังจากนี้คาดว่าจะมีผู้สมัครระดับไฮ-โปรไฟล์จากทั้ง 2 พรรคการเมืองทยอยประกาศตัวลงสู้ศึกชิงบัลลังก์ทำเนียบขาว
เมื่อไม่กี่วันมานี้ ส.ว.เอลิซาเบธ วอร์เรน จากพรรคเดโมแครตก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการหยั่งเสียง (exploratory committee) เพื่อเตรียมตัวลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในปี 2020 และเปิดการปราศรัยใหญ่ที่รัฐไอโอวา
นักการเมืองสายเดโมแครตคนอื่นๆ ซึ่งคาดว่าจะลงสมัครสู้กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ได้แก่ โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมถึง ส.ว.หัวก้าวหน้าอย่าง เบอร์นี แซนเดอร์ส ซึ่งเคยพ่ายแพ้ให้กับ ฮิลลารี คลินตัน ในศึกชิงผู้แทนพรรคเดโมแครตเมื่อปี 2016
จูเลียน คาสโตร อดีตนายกเทศมนตรีเมืองซานอันโตนิโอและรัฐมนตรีกระทรวงการเคหะในยุคของโอบามา ก็เตรียมที่จะประกาศลงชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ ภายในวันนี้ (12) เช่นกัน
กับบาร์ด ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักตอนที่เธอแอบเดินทางไปพบ อัสซาด ที่กรุงดามัสกัสเมื่อปี 2017 ในภารกิจสืบหาความจริงซึ่งรวมถึงการลงสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเมืองอะเลปโป โดยเธอยังได้พบปะกับผู้ลี้ภัยและแกนนำกบฏซีเรียอีกหลายคน
“ตอนแรกฉันไม่ได้ตั้งใจจะไปพบอัสซาด แต่ในเมื่อได้รับโอกาส ฉันก็รู้สึกว่าควรที่จะต้องคว้ามันไว้” เธอให้สัมภาษณ์หลังจากที่ข่าวแพร่กระจายออกไป “ฉันคิดว่าเราควรพร้อมที่จะพบกับทุกๆ คน ถ้านั่นหมายถึงโอกาสที่จะช่วยยุติสงครามซึ่งทำให้ประชาชนชาวซีเรียต้องบอบช้ำมามากแล้ว”
กับบาร์ด เคยถูกส่งไปประจำการในอิรักเมื่อปี 2005 และยังคงเป็นสมาชิกกองกำลังเนชันแนลการ์ดประจำรัฐฮาวาย