เอเอฟพี - เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ในวันศุกร์(11ม.ค.) ประมาณการว่าจะมีผลกำไรอย่างงดงามในปี 2019 ผลจากมาตรการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ในนั้นรวมถึงปรับลดคนงาน เช่นเดียวกับยอดขายที่แข็งแกร่งในสหรัฐฯและจีน
จีเอ็ม ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯและนักการเมืองอเมริการายอื่นๆ ต่อแผนปลดคนงาน คาดหมายว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 2,000 ถึง 2,500 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ สืบเนื่องจากการปรับโครสร้าง ผลักให้ประมาณการกำไรต่อหุ้นอยู่เหนือกว่าที่พวกนักเวิคราะห์คาดหมายไว้
ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯแห่งนี้ ประมาณการว่าจะมีผลกำไรในปี 2019 ราวๆ 6.50 ดอลลาร์ต่อหุ้นและ 7.00 ดอลลาร์ต่อหุ้น ขณะที่พวกนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคาดหมายในตอนนี้ว่าน่าจะอยู่ราวๆ 5.88 ดอลลาร์ต่อหุ้น นอกจากนี้แล้ว จีเอ็ม ยังประมาณการด้วยว่าผลกำไรต่อหุ้นในปี 2018 ก็น่าจะเหนือกว่าที่คาดหมายไว้เช่นกัน
ตลาดหุ้นทั่วโลกตกอยู่ในภาวะสั่นคลอนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สืบเนื่องจากความอ่อนแอของเศรษฐกิจจีน ส่วนหนึ่งจากเหตุเผชิญหน้าทางการค้ากับสหรัฐฯ ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์บางส่วนยังคาดหมายว่าบางทีอเมริกาอาจดิ่งลงสู่ภาวะถดถอยในปี 2020
อย่างไรก็ตาม จีเอ็มมองแนวโน้มแข็งแกร่งในตลาดจีนและสหรัฐฯ โดยประมาณการว่ายอดขายในอเมริกาในปี 2019 น่าจะอยู่ราวๆ 17 ล้านคน ซึ่งถือเป็นระดับที่ดีและคาดหมายว่ายอดขายในจีนจะไม่ลดลง
แมรี บาร์รา ซีดีโอของจีเอ็ม มีมุมมองแง่บวกต่อโนวแน้มข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฐกับจีน ด้วยชื่นชมการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่วอชิงตันกับปักกิ่งในสัปดาห์นี้ว่า "สร้างสรรค์" ขณะที่มีรายงานว่าการหารือครั้งนี้ไปถูกกำหนดไว้ในวอชิงตัน ช่วงปลายเดือนมกราคม
บาร์รา บอกว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่รัฐบาล 2 ชาติมีแผนเจรจาเพิ่มเติม พร้อมระบุว่ายอดขายในจีนอาจได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล