สหรัฐฯประกาศเตือนใหม่ถึงพลเมืองในจีน จากความตึงเครียดจับกุมผู้บริหาร'หัวเว่ย

รอยเตอร์ - กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(3ม.ค.) ออกประกาศเตือนใหม่ถึงพลเมืองที่กำลังเดินทางอยู่ในประเทศจีน ให้เพิ่มความระมัดระวัง สืบเนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นตามอำเภอใจ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการทูตจากกรณีผู้บริหารระดับสูงของ "หัวเว่ย" ถูกจับกุมในแคนาดา

ในการอัพเดทคำแนะนำด้านการเดินทาง ทางกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังคงคำเตือนไว้ที่ "ระดับ2" แต่เตือนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจสอบด้านความปลอดภัยเป็นพิเศษและการเพิ่มประจำการตำรวจในซินเจียงอุยกูร์และเขตปกครองตนเองทิเบต

คำแนะนำนี้ถูกเผยแพร่ออกมาหลังจาก ไมเคิล โควริก พลเมืองแคนาดา ซึ่งเป็นอดีตทูตและที่ปรึกษาของสถาบันอินเตอร์เนชันแนล ไครซิส กรุ๊ป (ICG) และ ไมเคิล สปาวอร์ นักธุรกิจ ถูกเจ้าหน้าที่จีนควบคุมตัวในเดือนธันวาคม โดยปักกิ่งระบุว่าทั้งสองต้องสงสัยเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ

ความตึงเครียดกับจีนโหมกระพือขึ้น หลังจากตำรวจแคนาดาจับกุม เมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบุตรสาวผู้ก่อตั้งบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ "หัวเว่ย" ในแวนคูเวอร์ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ตามคำร้องขอของสหรัฐฯ

อัยการสหรัฐฯกล่าวหาเธอว่าหลอกลวงธนาคารข้ามชาติเกี่ยวกับการทำธุรกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอิหร่าน ส่งผลให้ธนาคารเหล่านั้นเสี่ยงละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของอเมริกา

ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี(3ม.ค.) อัยการสูงสุดของจีนระบุไม่สงสัยเลยว่าชาวแคนาดา 2 คนที่ถูกควบคุมตัวนั้นละเมิดกฎหมาย

ครั้งออกคำแนะนำด้านการเดินทางเยือนจีนก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 มกราคมปีก่อน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้ชาวอเมริกาเพิ่มความระมัดระวังในจีน เพราะว่าการบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นตามอำเภอใจและและข้อจำกัดพิเศษต่อบุคคล 2 สัญชาติจีน-สหรัฐฯ

ในคำแนะนำล่าสุด เป็นการประกาศเตือนซ้ำอีกรอบ แต่เพิ่มเติมเกี่ยวกับ "มาตรการรักษาความปลอดภัยพิเศษ อย่างเช่นการคัดกรองด้านความปลอดภัยและการยกระดับประจำการของตำรวจ โดยเฉพาะในซินเจียงอุยกูร์และเขตปกครองตนเองทิเบต ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจประกาศเคอร์ฟิวและจำกัดการเดินทาง ด้วยแจ้งให้ทราบล่วงหน้าภายในระยะเวลาอันสั้น

นอกจากนี้แล้วในคำแนะนำยังได้เตือนเกี่ยวกับคำสั่งห้ามในปัจจุบันของจีน ที่อาจห้ามพลเมืองสหรัฐฯออกนอกประเทศ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้บุคคลเหล่านั้นต้องอยู่ในจีนเป็นเวลานานหลายปี