เอเจนซีส์ – นักการทูตระดับสูงสุดของเกาหลีเหนือในอิตาลี ขอลี้ภัยในประเทศตะวันตกและอยู่ระหว่างการหลบซ่อนตัว สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้หลายรายบอกกับพวกผู้สื่อข่าว ภายหลังปิดประตูรับฟังการบรรยายสรุปของพวกเจ้าหน้าที่ข่าวกรองโสมขาวในวันพฤหัสบดี (3 ม.ค.)
คิม มินกี สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า โจ ซองกิล รักษาการเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำอิตาลี กำหนดหมดวาระดำรงตำแหน่งเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และเขาได้หลบหนีออกจากเขตสถานทูตตอนต้นเดือนดังกล่าว พร้อมกับภรรยา
โจ ซึ่งอยู่ในวัย 48 ปี ทำหน้าที่รักษาการเอกอัครราชทูตประจำกรุงโรมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2017 หลังอิตาลีขับ มุน จองนัม เอกอัครราชทูตโสมแดงในขณะนั้นออกนอกประเทศ เพื่อประท้วงการที่เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ที่เป็นการละเมิดมติสหประชาชาติ
สถานเอกอัครราชทูตประจำอิตาลี ถือเป็นสำนักงานทางการทูตแห่งสำคัญสำหรับเปียงยาง เนื่องจากเป็นผู้ดูแลเรื่องความสัมพันธ์กับองค์การอาหารและเกษตรแห่งยูเอ็น (เอฟเอโอ) ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงโรม และโสมแดงก็ประสบปัญหาขาดแคลนอาหารแบบเรื้อรัง
ทางด้าน ลี อึนเจ สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้อีกผู้หนึ่ง บอกพวกผู้สื่อข่าวว่า สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ (เอ็นไอเอส) ของโสมขาว ยืนยันว่านักการทูตผู้นี้กำลังขอลี้ภัย แต่ทางสำนักงานดูเหมือนไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ไหนในตอนนี้
แหล่งข่าวรายหนึ่งซึ่งใกล้ชิดกับกระทรวงการต่างประเทศอิตาลี บอกกับเอเอฟพีในวันพฤหัสบดี (3) ว่า อิตาลีไม่ทราบเลยว่าโจอยู่ที่ไหน พร้อมบอกอีกว่าบุคคลที่เกาหลีเหนือส่งมาแทนที่โจ ก็เดินทางถึงกรุงโรมแล้ว
นอกจากนั้นแหล่งข่าวทางการทูตอีกคนสำทับว่า กระทรวงการต่างประเทศอิตาลีไม่ได้รับรายงานว่า โจ ขอลี้ภัยในอิตาลี และเสริมว่า ปลายปีที่ผ่านมา เกาหลีเหนือแจ้งว่า กำลังส่งเอกอัครราชทูตคนใหม่ไปประจำที่กรุงโรม ซึ่งถือเป็นกระบวนการปกติ
สำนักข่าวกรองแห่งชาติเอ็นไอเอสไปบรรยายสรุปแก่พวกสมาชิกรัฐสภาครั้งนี้ หลังจากหนังสือพิมพ์จุงอังอิลโบ ของเกาหลีใต้รายงานข่าวว่า โจขอลี้ภัยในประเทศตะวันตกแห่งหนึ่งพร้อมครอบครัวของเขา
จุงอิงอ้างแหล่งข่าววงการทูตในกรุงโซลรายหนึ่งเล่าว่า พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของอิตาลีแม้ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้ แต่ก็ยอมให้ความคุ้มครองและนำโจพร้อมครอบครัวไปหลบซ่อนตัวในสถานที่ปลอดภัย
หากเรื่องนี้ได้รับการยืนยัน โจจะเป็นหนึ่งในนักการทูตอาวุโสที่ทะยอยหลบหนีจากประเทศที่แร้นแค้นและอยู่ภายใต้การปกครองที่กดขี่ข่มเหงภายใต้ระบอบคิม จองอึน
เดือนสิงหาคม 2016 แต ยองโฮ รองเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำลอนดอนในขณะนั้น พาครอบครัวหนีไปอยู่เกาหลีใต้ ถือเป็นนักการทูตระดับสูงสุดที่แปรพักตร์จากเปียงยางในตอนนั้น
ทางด้านทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงวันพฤหัสบดี ว่า ไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนผู้แทนของสถานทูตอิตาลีในโซลที่รับผิดชอบความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือด้วย ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ
นอกจากนั้น จุงอัง อิลโบยังรายงานโดยอ้างอิงคำบอกเล่าของผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือคนหนึ่งว่า โจอยู่ในอิตาลีกับภรรยาและลูก และเป็นที่รู้กันว่า เขาเป็นลูกหรือลูกเขยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดในรัฐบาลเกาหลีเหนือ
พวกนักการทูตเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ที่เดินทางไปรับตำแหน่งนอกประเทศ ธรรมดาแล้วต้องทิ้งสมาชิกในครอบครัวหลายๆ คนเอาไว้ที่โสมแดง ปกติแล้วมักจะเป็นลูก ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแปรพักตร์ แต่โจกลับมีอภิสิทธิ์สามารถพาภรรยาและลูกไปอยู่กรุงโรมได้ในเดือนพฤษภาคม 2015