เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ตำรวจอินเดียแถลงวันพฤหัสบดี(3 ม.ค)ว่า ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน บาดเจ็บอีก 15 รายจากความรุนแรงที่มาจากการปะทะเกิดลุกลามไปทั่วทั้งรัฐเกรละทางใต้ของอินเดีย หลังจากที่หญิงชาวอินเดีย 2 คนที่ยังไม่ได้อยู่ในวัยหมดระดูแอบย่องเข้าวัดซาบารีมาลา (Sabarimala temple ) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูหลายล้านคนก่อนตะวันขึ้นเมื่อวานนี้(2 ม.ค)
เอเอฟพีรายงานวันนี้(3 ม.ค)ว่า มีรายงานว่าเกิดปะทะทั่วทั้งรัฐทางใต้ของอินเดียซึ่งมีต้นตอมาจากในเช้ามืดวันพุธ(2)เมื่อนักเคลื่อนไหวสตรีชาวอินเดีย 2 คน โดยตามรายงานพบว่ามีอายุราว 40 ปี อ้างอิงจากสื่ออินเดียได้เดินทางเข้าไปด้านในวัดฮินดูชื่อดัง วัดซาบารีมาลา (Sabarimala temple )ภายใต้การอารักขาของตำรวจ
โดยในเวลา 03.45 น.ของวันพุธ(2)อ้างอิงจากscroll.in คนทั้งคู่ได้เข้าไปด้านในวิหารอัยยัปปา (Ayyappa shrine ) scroll.in ชี้ ซึ่งภาพวิดีโอคลิปที่ปรากฎแสดงให้เห็นถึงนักเคลื่อนไหวสตรีทั้งสองคือ คานาคะ ทุรคา (Kanaka Durga)วัย 39 ปี และบินทู อัมมินี(Bindu Ammini)วัย 40 ปี ได้เข้าไปด้านในวิหารอัยยัปปา โดยคนทั้งคู่สวมชุดสีดำ และมีผ้าคลุมศีรษะสีดำปกปิดมิดชิด
หนึ่งในหญิงทั้งสองชี้แจงว่า พวกเธอผ่านทางเข้าหลักเมื่อเวลากลางคืน 01.30 น.ของวันพุธ(2) และขอให้ตำรวจช่วยคุ้มครองเพื่อเข้าไปในวัด และเดินต่ออีก 2 ชั่วโมงจนเข้าไปในวิหารอัยยัปปาของวัดได้เมื่อเวลา 03.30 น. และได้ทำพิธีดาร์ชาน อันเป็นพิธีที่กระทำโดยยืนหน้าเทวรูปสำคัญของวัดฮินดู ต่อจากนั้นพวกเธอก็แสดงความประสงค์ว่า ต้องการเดินทางกลับบ้านซึ่งอยู่ในพื้นที่อื่นของรัฐเกรละ
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา 1 ใน 2 ของหญิงทั้งหมดให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า ไม่ได้เข้าไปในวัดตามทางขึ้นบันไดศักดิ์สิทธิ์ 18 ขั้น แต่กลับเข้าไปจากทางประตูหลังแทน ซึ่งเป็นทางเข้าออกสำหรับเจ้าหน้าที่ในวัด และทางตำรวจไม่ได้พยายามที่จะนำตัวพวกเธอออกไป
ทั้งนี้ก่อนหน้าในวันที่ 24 ธันวาคมปีที่แล้ว พบว่าหญิงทั้งคู่พยายามเข้าใกล้กับวัดฮินดูศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้แต่ล้มเหลว
ซึ่งสถานีทีวีหลายแห่งรายงานว่า หัวหน้านักบวชสั่งปิดวัดช่วงสั้นๆ เพื่อทำพิธีล้างบาปหลังจากที่ผู้หญิงสองคนแอบเข้าไป
ตามธรรมเนียมปฎิบัติที่เคร่งครัด พบว่าวัดแห่งนี้ยังคงห้ามสตรีที่ยังอยู่ในวัยมีประจำเดือนไม่ให้เข้าไปด้านในด้วยเกรงว่าจะทำให้วัดเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ลง และวัดซาบารีมาลายังคงถือตามธรรมเนียมนี้อยู่ถึงแม้ว่าในเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ศาลสูงอินเดียจะกลับคำสั่งห้ามอายุร่วมหลายสิบปีด้วยการพิพากษาให้ ผู้หญิงอายุระหว่าง 10 – 50 ปี สามารถเดินทางเข้าไปสักการะบูชาได้
แต่ทว่านับตั้งแต่คำพิพากษาของศาลสูงอินเดียออกมา มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวสตรีพยายามใช้สิทธิที่ได้จากคำพิพากษาด้วยการเข้าไปใกล้กับวัดแห่งนี้ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากวัดซาบารีมาลานั้นได้รับการปกป้องจากลูกศิษย์วัดทั้งหญิงและชายที่ต่างมองว่า คำพิพากษานี้เป็นการทำลายประเพณีความเชื่อของชาวฮินดู
ปรามด กุมาร์ (Pramod Kumar) โฆษกตำรวจรัฐเกรละแถลงถึงผู้เสียชีวิตว่า “ผู้ที่เสียชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของการประท้วงของพรรคภารตียชนตา (BJP) เมื่อวานนี้ และได้รับบาดเจ็บจากหินที่ถูกขว้าง(ไปที่ผู้ประท้วง)”
กุมาร์เสริมต่อว่า “อาการบาดเจ็บของเขานั้นอยู่ในขั้นสาหัส และได้เสียชีวิตลงในคืนวันพุธ(2) และมึคนอื่นอีก 15 รายได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรงทั่วทั้งรัฐ”
เอเอฟพีชี้ว่า สื่อท้องถิ่นรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงจากพรรคฮินดูชาตินิยม BJP ของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ตกเป็นเป้าการโจมตีด้วยก้อนหินที่ออกมาจากสำนักงานท้องถิ่นของพรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งเป็นพรรคที่บริหารรัฐเกรละ
สำหรับสถานการณ์ภายในรัฐในวันนี้(3) พบว่ายังคงอยู่ในความตรึงเครียด ซึ่งทางตำรวจอินเดียได้แถลงว่า จะส่งกำลังเสริมออกไปทั่วทั้งรัฐเพื่อป้องกันความรุนแรงที่อาจจะปะทุรอบใหม่ บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานว่า ยังคงพบว่ามีการประท้วงเกิดขึ้นเป็นวันที่ 2 ซึ่งโรงเรียนและร้านค้าต่างปิดตัวลงเพราะเกรงความรุนแรง รวมไปถึงการให้บริการรถบัสได้หยุดวิ่งเช่นกันเนื่องจากกลุ่มผู้ประท้วงได้ปิดถนนไฮเวย์ไว้
โดยเมื่อวันพุธ(2) พบว่าทางตำรวจปราบจลาจลต้องยิงแก๊สน้ำตา ระเบิดแสง และกระสุนน้ำเพื่อควบคุมการปะทะระหว่างกลุ่มคู่อริ ผู้สนับสนุนสายคอนเซอร์เวตีฟและผู้สนับสนุนของพรรคการเมืองปีกซ้ายซึ่งมีอำนาจเป็นรัฐบาลปกครองรัฐเกรละแห่งนี้
เอเอฟพีรายงานว่า พบว่ามีนักข่าวโดนลูกหลงถูกทำร้ายในการปะทะที่เมืองเอกประจำรัฐ เมืองติรุวนันตปุรัม (Thiruvananthapuram) และเมืองโกลลัม(Kollam) ที่อยู่ใกล้เคียง
