เอเอฟพี - นักการทูตเกาหลีเหนือในอิตาลีคนหนึ่งได้ขอลี้ภัยไปยังประเทศที่ 3 นับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงโสมแดงรายล่าสุดที่ตัดสินใจแปรพักตร์จากระบอบคิม จองอึน รายงานเผยวันนี้ (3 ม.ค.)
หนังสือพิมพ์จุงอัลอิลโบของเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวการทูตในกรุงโซลว่า โจ ซองกิล รักษาการเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำกรุงโรม ได้ยื่นเรื่องขอลี้ภัยไปยังประเทศตะวันตกแห่งหนึ่งพร้อมกับครอบครัว
“เขาทำเรื่องขอลี้ภัยเมื่อต้นเดือนที่แล้ว” จุงอัง อ้างคำพูดของแหล่งข่าวคนหนึ่ง
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งระบุว่า รัฐบาลอิตาลี “ลำบากใจ” และไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร แต่ก็ได้ส่งตัวนักการทูตรายนี้ “ไปพำนักยังสถานที่ปลอดภัย” แล้ว
ก่อนหน้านี้ แท ยองโฮ รองเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำกรุงลอนดอนก็ได้ละทิ้งหน้าที่และหลบหนีไปเกาหลีใต้เมื่อปี 2016
โจ วัย 48 ปี รักษาการตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกรุงโรมมาตั้งแต่เดือน ต.ค.ปี 2017 หลังจากที่เอกอัครราชทูต มุน จองนัม ถูกรัฐบาลอิตาลีสั่งเนรเทศ เพื่อตอบโต้ที่เกาหลีเหนือทดสอบระเบิดนิวเคลียร์อันเป็นการละเมิดคำสั่งห้ามของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือเผยกับจุงอังอิลโบว่า โจ “เป็นบุตรชายหรือไม่ก็ลูกเขยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดคนหนึ่งในระบอบคิม”
นักการทูตโสมแดงที่ถูกส่งไปทำงานต่างประเทศส่วนใหญ่จะต้องทิ้งสมาชิกในครอบครัวโดยเฉพาะลูกๆ เอาไว้เป็นตัวประกันที่เปียงยาง เพื่อป้องกันการแปรพักตร์
อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีของ โจ นั้นได้รับอนุญาตให้เดินทางไปอิตาลีพร้อมภรรยาและบุตรในเดือน พ.ค. ปี 2015 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าครอบครัวของเขาน่าจะมีอิทธิพลอยู่พอสมควร ส่วนสาเหตุของการลี้ภัยนั้นยังไม่ชัดเจน
แท ยองโฮ ให้เหตุผลตอนที่ตัดสินใจแปรพักตร์ว่า ต้องการเห็นลูกๆ ทั้ง 3 คนมีอนาคตที่ดีกว่านี้
ตระกูลคิมสืบทอดตำแหน่งผู้ปกครองเกาหลีเหนือมาแล้วถึง 3 รุ่น ท่ามกลางเสียงประณามเรื่องการกดขี่ผู้ต่อต้านและการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง