เอเอฟพี - สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะแห่งญี่ปุ่น พระราชทานพรปีใหม่ให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นและทั่วโลกมีความสงบสุขและสันติภาพ ถือเป็นพระราชดำรัสอวยพรครั้งสุดท้ายก่อนที่พระองค์จะสละราชบัลลังก์ในปีนี้
แถลงการณ์จากสำนักพระราชวังอิมพิเรียล ระบุว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (2 ม.ค.) มีประชาชนมากกว่า 72,000 คนมารอเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระจักพรรดิ จักรพรรดินีมิชิโกะ และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่พระราชวังอิมพิเรียล และยังมีพสกนิกรอีกจำนวนมากที่ทยอยเดินทางมาเพื่อรับพระราชทานพรปีใหม่เป็นครั้งสุดท้าย
จักรพรรดิอากิฮิโตะจะทรงสละราชบัลลังก์ให้แก่พระราชโอรสองค์ใหญ่ในวันที่ 30 เม.ย.ปีนี้ หลังจากที่ทรงครองราชย์มานาน 3 ทศวรรษ และถือเป็นประมุขพระองค์แรกของญี่ปุ่นที่สละราชบัลลังก์ในรอบ 200 ปี
“ข้าพเจ้ามีความยินดีอย่างจริงใจที่ได้มีโอกาสฉลองเทศกาลปีใหม่ร่วมกับทุกท่าน ท่ามกลางสภาพอากาศที่สดใสเช่นนี้” สมเด็จพระจักรพรรดิตรัสต่อบรรดาผู้เข้าเฝ้าฯ ที่ต่างโบกสะบัดธงชาติและป่าวร้องคำว่า “บันไซ” หรือ “ทรงพระเจริญ”
“ข้าพเจ้าขอสวดภาวนาให้ประชาชนทุกคนในชาติของเราและทั่วโลกจงประสบสันติภาพและความสุข”
สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นจะเสด็จฯ ออกมหาสมาคมในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นประจำทุกปี และคาดว่าในวันนี้ (2) จะเสด็จออก ณ ระเบียงพระราชวังหลวงมากถึง 5 ครั้งเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมีอย่างทั่วถึงที่สุด
ผู้ที่เฝ้ารับเสด็จฯ บางคนร้องบอกพระจักรพรรดิว่า “ขอขอบพระทัย” บ้างก็ร้องเพลงชาติญี่ปุ่น ขณะที่สตรีซึ่งนั่งอยู่แถวหน้าสุดคนหนึ่งถึงกับหลั่งน้ำตา เมื่อมองไปยังสมเด็จพระจักรพรรดิซึ่งประทับยืนอยู่ที่ระเบียง
จักรพรรดิอากิฮิโตะทรงสร้างความตกตะลึงต่อชาวญี่ปุ่นในปี 2016 โดยมีพระราชดำรัสเป็นนัยๆ ว่าทรงปรารถนาที่จะสละราชสมบัติ เนื่องจากพระชนมายุมากแล้วและพระพลานามัยไม่แข็งแรงดังก่อน
เจ้าฟ้าชายนารุฮิโตะ พระราชโอรสองค์ใหญ่และมกุฎราชกุมาร จะเสด็จฯ ขึ้นครองราชย์ในวันที่ 1 พ.ค. เริ่มต้นยุคสมัยใหม่แห่งราชวงศ์เบญจมาศซึ่งมีการสืบสันตติวงศ์มาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลก
สถานะของจักรพรรดินั้นถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เนื่องจากญี่ปุ่นเคยทำสงครามรุกรานเพื่อนบ้านเมื่อช่วงศตวรรษที่ 20 ในนามของจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ ซึ่งเสด็จสวรรคตในปี 1989
จักรพรรดิอากิฮิโตะทรงดำรงสถานะเป็นสัญลักษณ์แห่งรัฐ ซึ่งถือเป็นบทบาทของประมุขสมัยใหม่ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และแตกต่างจากจักรพรรดิพระองค์ก่อนๆ ซึ่งได้รับการเชิดชูประหนึ่งสมมติเทพ
ในพระราชดำรัสเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา พระจักรพรรดิได้ทรงรำลึกถึง “ชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน” ที่ต้องสูญเสียไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
“ข้าพเจ้ามีความสบายใจอย่างยิ่งที่รัชสมัยเฮเซ (Heisei Era) ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดลงนี้ ปราศจากศึกสงครามในญี่ปุ่น”
สมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์นี้ทรงใช้พระราชดำรัสและการเสด็จพระราชดำเนินเยือนที่ต่างๆ เพื่อแสดงออกถึงเจตนารมณ์ใฝ่สันติอันแรงกล้าของพระองค์ และยังทรงทำให้พระราชวงศ์มีความใกล้ชิดกับประชาชนมากขึ้นด้วยการเสด็จฯ เยี่ยมเยียนผู้ที่ด้อยโอกาสหรือประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ
