(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
Campaign against Huawei faces embarrassing reality
By Asia Times staff
01/01/2019
พวกผู้ให้บริการสื่อสารไร้สายชี้ว่า สหรัฐฯนั้นไม่มีคู่แข่งขันที่สามารถเสนออุปกรณ์ 5 จีมาต่อกรกับหัวเว่ยเลย เวลาเดียวกันนั้น พวกเพลเยอร์ในยุโรป, เกาหลีใต้ ก็ถูกหัวเว่ยทิ้งเอาไว้ข้างหลังอย่างห่างไกล
พวกหน่วยงานจารกรรมตลอดทั่วโลกที่พูดจากันด้วยภาษาอังกฤษ กำลังมีความเห็นพ้องต้องกันอย่างกว้างขวางในเรื่องเกี่ยวกับการแข่งขันเพื่อนำเอาเครือข่ายสื่อสารไร้สายเจเนอเรชั่นหน้าออกมาใช้งาน ขณะที่บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับท็อปจากออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร, แคนาดา, และสหรัฐอเมริกา ต่างออกมาพูดออกมาแถลงเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย ยักษ์ใหญ่เทเลคอมสัญชาติจีน เป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงมีอันตรายคุกคามความมั่นคงแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม สำหรับพวกผู้ให้บริการในประเทศต่างๆ เหล่านี้ การปฏิบัติให้เป็นไปตามการประเมินดังกล่าวกลับประสบกับปัญหาใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่ม กล่าวคือ มันไม่มีทางเลือกอื่นๆ ที่ดีงามเอาเสียเลย
ในส่วนของสหรัฐฯนั้น ไม่มีบริษัทไหนเลยที่สามารถเสนออุปกรณ์เครือข่ายไร้สายเจเนอเรชั่นที่ 5 หรือ จี5 ออกมาแข่งขันเพื่อให้เลือกใช้แทนของหัวเว่ย ขณะเดียวกัน ทางฝั่งยุโรป ทั้ง โนเกีย และ อิริคสัน ต่างกำลังดิ้นรนอย่างหนักเพื่อวิ่งไล่ให้ทันหัวเว่ย ส่วน ซัมซุง ของเกาหลีใต้ กำลังลงทุนแบบจัดเต็มทีเดียวในเรื่องนี้ ทว่าอยู่ในฐานะที่มาถึงงานปาร์ตี้เอาเมื่อสายมากเสียแล้ว
สำหรับหัวเว่ย ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณรัฐบาลจีนที่ให้การอุดหนุนอย่างมากมายมโหฬาร บริษัทเทเลคอมยักษ์รายนี้สามารถเสนอขายทั้งอุปกรณ์และบริการต่างๆ ในราคาเพียงแค่ส่วนเสี้ยวของพวกคู่แข่ง บริษัทได้เติบใหญ่ขยายตัวแบบทบทวีตรีคูณจนกระโดดข้ามโนเกียและอิริคสัน กระทั่งกลายเป็นผู้ซัปพลายอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลกไปแล้วในปัจจุบัน
เรื่องเช่นนี้ยังคงบังเกิดขึ้นทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่าบริษัทได้ถูกตัดออกจากตลาดสหรัฐฯแทบจะอย่างสิ้นเชิงมาเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว
พวกผู้บริหารธุรกิจในสหราชอาณาจักรได้สรุปสภาพซึ่งความพยายามที่นำโดยสหรัฐฯในการบอยคอตต์หัวเว่ย ต้องตกอยู่อาการกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกอย่างน่าหดหู่ใจเช่นนี้เอาไว้ ดังรายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัล ดังนี้:
“พวกผู้บริหารในบริษัทสหราชอาณาจักรที่เป็นผู้ให้บริการด้านสื่อสารไร้สายรายใหญ่รายหนึ่ง กล่าวว่า หัวเว่ยสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตั้งเกือบ 1 ปีก่อนที่โนเกียกับอิริคสันจะสามารถเสนอฮาร์ดแวร์ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ต่อกรกันได้ออกมา พวกเขาบอกว่าพวกเขากำลังแจ้งให้เจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักรทั้งหลาย ซึ่งวางแผนการจะตัดสินใจภายในฤดูใบไม้ผลิปี 2019 ในเรื่องจะห้ามปรามไม่ให้ใช้อุปกรณ์สำคัญของหัวเว่ยในประเทศนี้หรือไม่ ได้ทราบว่าการขึ้นบัญชีดำหัวเว่ยอาจหมายถึงความล่าช้าออกไปราว 9 เดือนสำหรับการที่สหราชอาณาจักรจะเริ่มเปิดบริการ 5จี ที่เป็นเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายอันรวดเร็วระดับซูเปอร์แห่งยุคถัดจากนี้ไป” (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.wsj.com/articles/huawei-rivals-nokia-and-ericsson-struggle-to-capitalize-on-u-s-scrutiny-11546252247?mod=hp_lead_pos4)
รายงานชิ้นนี้บอกว่า โนเกียและอิริคสันเอง ก็กำลังกังวลใจว่าพวกเขาอาจจะถูกปิดประตูถูกกีดกันออกมาจากตลาดของจีน หากพวกเขาฉวยใช้โอกาสที่เกิดขึ้นจากการที่หัวเว่ยกำลังถูกเตะออกมาจากตลาดอื่นๆ อันที่จริงแล้ว กำลังแรงงาน 15,000 คนที่โนเกียมีอยู่ภายในภูมิภาคจีนนั้น อยู่ในระดับราวๆ 2 เท่าตัวของกำลังแรงงานในฐานบ้านเกิดของตนที่ฟินแลนด์ทีเดียว ขณะที่อิริคสันก็มีลูกจ้างพนักงานจำนวน 12,000 คนในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ
ออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์ได้กระโจนเข้าร่วมกับสหรัฐฯในการคว่ำบาตรอุปกรณ์ 5จี ของหัวเว่ยอย่างเต็มตัวไปแล้ว ทำให้พวกผู้ให้บริการของสองประเทศนี้ไม่มีหนทางใดๆ อีก นอกจากต้องรอคอยไปจนกว่าจะมีทางเลือกอื่นๆ ซึ่งทั้งล่าช้ากว่าและราคาแพงกว่า แต่สำหรับในสหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, และเยอรมนี ยังคงมีแรงต่อต้านไม่เห็นด้วยกับการบอยคอตต์หัวเว่ย ปี 2019 นี้จึงจะเป็นปีที่พวกบริษัทในประเทศเหล่านี้ หากไม่ใช่เข้าร่วมวิ่งกระโจนพรวดๆ ไปกับหัวเว่ย ก็จะถูกบีบบังคับอย่างไม่เต็มใจเลยให้ต้องแบกภาระช่วยชีวิตบริษัทอื่นๆ ให้รอดพ้นจากความเสื่อมทรุดตกต่ำที่ร้ายแรงถึงขั้นอาจล้มตายไปเลยเพราะแข่งขันในโลกยุคใหม่ไม่ไหวแล้ว