เอเอฟพี - นอกเหนือจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ใช้โอกาสเยือนอิรักแบบฟ้าผ่า เยี่ยมทหารอเมริกาในเขตสงครามเป็นครั้งแรกตั้งแต่ได้รับเลือกตั้ง สำหรับปกป้องการตัดสินใจถอนทหารจากซีเรียแล้ว ผู้นำรายนี้ยังใช้วาระดังกล่าวประกาศยุติบทบาทของอเมริกาในฐาน "ตำรวจโลก"
ทรัมป์เดินทางไปพร้อมกับเมลาเนีย สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ลงจอดที่ฐานทัพอากาศอัล อาซัด ทางตะวันตกของกรุงแบกแดด เมื่อวันพุธ (26 ธ.ค.) ในสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็นเที่ยวบินที่เต็มไปด้วยความเครียดและปกปิดเป็นความลับบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันอันมืดสนิท
เขาใช้โอกาสนี้พูดคุยกับบุคลากรของกองกำลังพิเศษเกือบ 100 นายและหารือแยกกันกับเหล่าผู้บัญชาการทหาร ก่อนเดินทางกลับในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา หลังการเยือนดังกล่าวโหมกระพือข้อถกเถียงในอิรัก
แผนพบปะหารือกับ อเดล อับดุล-มาห์ดี นายกรัฐมนตรีอิรักถูกยกเลิกและต้องเปลี่ยนเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์แทน ขณะที่ทำเนียบขาวเผยว่าทรัมป์ได้เชิญ อับดุล-มาห์ดี มาเยือนวอชิงตัน ซึ่งเขาก็ตอบรับคำเชิญ
การเดินทางเยี่ยมเหล่าทหารสหรัฐฯในสมรภูมิต่างๆเพื่อเสริมสร้างกำลังใจแก่กำลังพลเหล่านั้น เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมานานหลายปี ตามหลังเหตุโจมตีก่อการร้าย 11 กันยายน 2011
สำหรับทรัมป์นั้นถูกวิพากษ์วิจารณ์มานานที่พยายามหลีกเลี่ยงเดินทางลงสมรภูมิรบตลอด 2 ปีแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ข่าวลือหนาหูขึ้นเรื่อยๆว่าท้ายที่สุดแล้วเขาอาจตัดสินใจเยี่ยมกำลังพลในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง หลังมีเสียงคัดค้านแผนลดกำลังทหารในอัฟกานิสถานและคำสั่งถอนทหารทั้งหมดออกจากซีเรียของเขา
ทรัมป์ ยังใช้โอกาสเยือนอิรัก ปกป้องนโบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" ของเขา ในการถอนตัวจากพันธมิตรนานาชาติ ในสมรภูมิต่างๆที่ชาวอเมริกาจำนวนมากมองว่าเป็นสงครามไม่มีจุดจบในตะวันออกกลาง พร้อมประกาศยุติบทบาทของอเมริกาในฐานะตำรวจโลก
"มันไม่ยุติธรรมที่โยนภาระทั้งหมดให้เรา เราไม่ต้องการให้ประเทศอื่นๆเอาเปรียบเราอีกต่อไป และใช้ทหารของเราปกป้องพวกเขา พวกเขาไม่ได้จ่ายเงินและพวกเขาจำเป็นต้องจ่าย เรากระจายออกไปทั่วทุกมุมโลก เราอยู่ในบางประเทศที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยแม้แต่ได้ยินข่าวคราวด้วยซ้ำ บอกตรงๆ มันน่าขันสิ้นดี"
ทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่าเขาปฏิเสธเหล่านายพลที่ร้องขอให้ขยายการประจำการในซีเรีย ประเทศที่ทหารสหรัฐฯราว 2,000 นายเข้าร่วมกับกำลังพลต่างชาติอื่นๆ ช่วยเหลือนักรบท้องถิ่นต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) "พวกคุณไม่เหลือเวลาอีกแล้ว พวกคุณใช้เวลาไปมากพอแล้ว"