เอเอฟพี - สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เผยแพร่พระฉายาลักษณ์ของเจ้าหญิงราชธิดาซึ่งพยายามหลบหนีออกจากวังเมื่อหลายเดือนก่อน เพื่อยืนยันว่าพระองค์ยังทรงมีชีวิตที่สุขสบายดีอยู่กับครอบครัว หลังมีเสียงร้องเรียนจากองค์กรสิทธิมนุษยชนว่าเจ้าหญิงอาจทรงตกเป็นเหยื่อการบังคับสูญหาย
ชัยคอ ลาตีฟา บิน โมฮัมเหม็ด บิน รอชีด อัล-มักตูม ไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนอีกเลย หลังจากที่พระองค์ทรงถูกจับกุมขณะพยายามขึ้นเรือหนีไปยังประเทศที่ 3 เมื่อเดือน มี.ค.
องค์กรสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้ทางการดูไบเปิดเผยที่อยู่ของเจ้าหญิงลาตีฟา ซึ่งล่าสุดเมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.) รัฐบาลยูเออีก็ได้เผยแพร่พระฉายาลักษณ์ของพระองค์ขณะประทับอยู่ที่วัง พร้อมด้วยนางแมรี โรบินสัน อดีตประธานาธิบดีแห่งไอร์แลนด์ ที่เคยดำรงตำแหน่งข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ระหว่างปี 1997-2002
“แมรี โรบินสัน ได้เข้าเฝ้าฯ ชัยคอ ลาตีฟา ที่ดูไบเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ปี 2018 ตามความประสงค์ของพระราชวงศ์” กระทรวงการต่างประเทศดูไบระบุในถ้อยแถลงซึ่งเผยแพร่ทางสำนักข่าว WAM
“ระหว่างที่เยือนดูไบ นางแมรี โรบินสัน ได้รับการยืนยันว่า ชัยคอ ลาตีฟา ทรงได้รับการดูแลและการสนับสนุนทุกอย่างที่พระองค์ปรารถนา”
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวยังไม่สามารถยืนยันรายละเอียดการเข้าเฝ้าฯ ครั้งนี้กับโฆษกของโรบินสัน
เจ้าหญิงลาตีฟา วัย 32 พรรษา ทรงประกาศผ่านคลิปวิดีโอที่เผยแพร่เมื่อเดือน มี.ค ว่าจะทรงหนีออกจากรัฐเอมิเรตแห่งนี้ เนื่องจากรับไม่ได้กับการกดขี่และข้อจำกัดต่างๆ ที่พระราชวงศ์กำหนดขึ้น
จากคำบอกเล่าของผู้เกี่ยวข้อง เจ้าหญิงลาตีฟาทรงหนีไปยังโอมานก่อน จากนั้นจึงเสด็จฯ ขึ้นเรือยอชต์ลำหนึ่งมุ่งหน้าออกทะเล แต่ไปถูกกองทัพเรืออินเดียสกัดจับและลากเรือกลับไปยังยูเออี
แหล่งข่าวใกล้ชิดรัฐบาลดูไบบอกกับเอเอฟพีเมื่อเดือน เม.ย. ว่าเจ้าหญิงทรงถูกพากลับไปยังนครดูไบแล้ว
ทางการยูเออีระบุวานนี้ (24) ว่า ประกาศล่าสุดมีวัตถุประสงค์เพื่อ “โต้แย้งข้อครหาที่ไม่เป็นความจริง และแสดงหลักฐานยืนยันว่า เจ้าหญิงลาตีฟาทรงประทับอยู่ที่วังกับครอบครัวของพระองค์ในดูไบ”
กระทรวงการต่างประเทศยูเออีระบุด้วยว่า ได้ส่งถ้อยแถลงนี้ไปยังสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (21)


