xs
xsm
sm
md
lg

In Clip: สุดฮือฮา!! ไฟแนนเชียลไทม์สยกให้ “จอร์จ โซรอส” ที่เคยทุบค่าเงินบาทให้เป็นบุคคลแห่งปี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ภาพประกอบทางอินเตอร์เนต
เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – ไฟแนนเชียลไทม์สประกาศล่าสุดให้พ่อมดการเงินวอลสตรีท “จอร์จ โซรอส” ผู้ซึ่งเคยโจมตีค่าเงินบาทในสมัยวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 1997 และก่อนหน้าเมื่อปี 1992 ได้โจมตีค่าเงินปอนด์สเตอริงของอังกฤษจนเกือบทำให้ธนาคารกลางอังกฤษเกือบต้องประสบภาวะล้มละลาย กลายเป็นบุคคลแห่งปีประจำปีนี้ โดยชี้ว่าโซรอสถือเป็นสัญลักษณ์มาตรฐานประชาธิปไตยโลกเสรี แต่ล่าสุดฮังการีภายใต้ประธานาธิบดี วิคเตอร์ ออร์แบน ประกาศว่า โซรอสซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีช่วยผู้อพยพในยุโรปถือเป็นศัตรูแห่งประชาธิปไตย

สื่อไบรท์บาร์ท (breitbart)ของสหรัฐฯรายงานวันเสาร์(22 ธ.ค)ว่า ในวันพุธ(19) ก่อนหน้าไฟแนนเชียลไทม์สได้ประกาศให้พ่อมดการเงินวอลสตรีทและเศรษฐีใจบุญวัย 88 ปีซึ่งเกิดในฮังการีให้เป็น “บุคคลแห่งปี”

โดยชี้ว่า เขาถือเป็นสัญลักษณ์แห่งมาตรฐานประชาธิปไตยเสรีนิยมและสังคมเปิด นอกจากนี้ตลอดทั้งปีนี้โซรอสยังเป็นตัวตั้งตัวตีสนับสนุนการอพยพเข้าในยุโรปโดยเฉพาะในฮังการีซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดและรัฐบาลบูดาเปสของประธานาธิบดี วิคเตอร์ ออร์แบนที่มีนโยบายต่อต้านผู้อพยพ

ซึ่งCNN สื่อสหรัฐฯชี้ว่า นับตั้งแต่ปี 1979 เป็นต้นมา โซรอสได้ทุ่มเงินถึง 32 พันล้านดอลลาร์ที่หาได้จากการเป็นผู้จัดการกองทุนเฮดจ์-ฟันด์(hedge-fund)เข้าสู่ระบบการเมืองประชาธิปไตยสายลิเบอรัลผ่านมูลนิธิโอเพน โซไซตี ฟาวเดชันส์(Open Society Foundations)ของเขา และเป็นมูลนิธิเดียวกันที่ประกาศเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า ทางมูลนิธิของจอร์จ โซรอสจะออกจากฮังการีภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2018 เนื่องมาจากอดทนไม่ไหวต่อนโยบายกดขี่ของออร์แบน

โดยทางโฆษกมูลนิธิได้แถลงกับเอเอฟพีในเวลานั้นว่า “ยังคงมีเพื่อนร่วมงานที่ยังคงทำงานอยู่ภายในสำนักงานที่นี่ แต่ทางเราจะยุติการทำงานภายในวันที่ 31 สิงหาคม”

ออร์แบนซึ่งชนะการเลือกตั้งในเดือนเมษายนต้นปีอย่างถล่มทะลายได้ออกกฎหมายอื้อฉาวในเดือนมิถุนายนที่เรียกว่า “กฎหมายหยุดโซรอส” ที่มีเนื้อหาระบุว่าจะลงโทษใครก็ตามที่ช่วยเหลือบุคคลเข้าสู่พรมแดนฮังการีอย่างผิดกฏหมายด้วยการจำคุกนานสูงสุด 1 ปี” อ้างอิงการรายงานของเอเอฟพีเมื่อวันที่ 16 ส.ค

ในขณะเดียวกันโซรอสได้กล่าวโทษรัฐบาลออร์แบนว่าทำนโยบายกีดกันยิวต่อตัวเขา แต่ทั้งออร์แบนและเจ้าหน้าที่ฮังการีต่างปฎิเสธเป็นเสียงเดียวกันว่า “คนเหล่านี้ไม่มีความอดทนต่อการเหยียดหยามชาวยิว”

CNN ชี้ว่าตลอดช่วงเวลา 10 ปีล่าสุด โซรอสขึ้นชื่อว่าเป็นชื่อว่าเป็นปฎิปักษ์ต่อ “ชนชั้นนำเสรีเกิดใหม่” (The emergent illiberal elite) ที่มีชื่อประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีตุรกี เรเจป ไตยิป เอร์โดอาน และแน่นอนที่สุดประธานาธิบดีฮังการี วิคเตอร์ ออร์แบน รวมอยู่ และเขายังเป็นศัตรูต่อการเมืองฝ่ายขวาในอเมริกาจนถึงขั้นได้รับไปป์บอมบ์จากเมลหน้าบ้านมาแล้วปีนี้

ด้านอดีตผู้จัดประจำสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ของสหรัฐฯ เกลนน์ เบ็ค (Glenn Beck) ได้เคยเรียกโซรอสว่า “เป็นพวกชักใยอยู่เบื้องหลัง” และมีเป้าประสงค์เพื่อต้องการทำลายอเมริกาทางด้านการเงิน ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า โซรอส บุคคลแห่งปีของไฟแนนเชียลไทม์สนั้น เป็นผู้อยู่เบื้องหลังวิกฤตการเงินโลก เป็นต้นว่า วิกฤตต้มยำกุ้งของไทยเมื่อปี 1997 โดยโซรอสทำกำไรมหาศาลจากการโจมตี “ค่าเงินบาท” ของไทย และสกุลเงินของอีกหลายชาติในเอเชียมาแล้วเมื่อช่วงวิกฤตการเงินในเอเชีย ซึ่งมีจุดเริ่มต้นที่ประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม ปี 1997

ซึ่งในเวลานั้นโซรอสเล็งเห็นแล้วว่าทางไทยจะไม่สามารถชำระหนี้ และทำให้เป็นจุดเริ่มต้นการโจมตีค่าเงินบาท ในขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยในเวลานั้นจำเป็นต้องนำเงินทุนสำรองของประเทศที่เป็นเงินสกุลดอลลาร์ไปซื้อ “เงินบาท” จากโซรอส และส่งผลทำให้มีการประกาศการลอยตัวค่าเงินตามมาเมื่อ 2 กรกฎาคม 2540 พ่ายแพ้ต่อ จอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินระดับโลกเจ้าของกองทุนเก็งกำไร Quantum และพรรคพวกของเขาที่ได้เข้าโจมตีค่าเงินบาทมาตั้งแต่ต้นปี 2540

และผลกระทบทางเศรษฐกิจเพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือจำนวนมาก ทำให้ทางไทยจำเป็นต้องปิดสถาบันการเงิน 56 แห่ง จากทั้งหมด 58 แห่ง มีหนี้ดีหนี้เสียโอนไปให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) มากกว่า 8 แสนล้านบาท ธนาคารพาณิชย์เกือบครึ่งถูกเปลี่ยนมือจากสมบัติของทุนไทยไปเป็นของต่างชาติ ที่เหลืออยู่ก็มีกระทรวงการคลังถือหุ้น ตามมาตรการ 14 สิงหาคม 2541

คุณไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เคยกล่าวถึงพ่อมดการเงิน จอร์จ โซรอส บนเฟซบุ๊กเมื่อ 13 กรกฎาคม 2015 ว่า

“เรื่องเลวร้ายต่างๆในโลก นายโซโรสอยู่เบื้องหลังทั้งนั้นเพราะว่าเขาเป็นตัวแทนของพวกนายแบงค์ (international bankers)ที่คุมWall Street ที่ฮั้วกันปั่นและทุบตลาดการเงินทั่วโลกเป็นเวลายาวนาน โดยที่รัฐบาลประเทศต่างๆยอมเล่นเกมWall Street เพราะว่าผู้เล่นรายใหญ่ที่ติดต่อสัมพันธ์กับแก๊งWall Streetได้ประโยชน์”

ซึ่งพบว่าเมื่อปี 1992 โซรอสได้เข้าโจมตีค่าเงินปอนด์สเตอริงของอังกฤษจนเกือบถึงขั้นทำให้ธนาคารกลางอังกฤษเกือบต้องประสบภาวะล้มละลาย

และสำหรับรัฐบาลฮังการีของออร์แบน ได้ประการศผ่านสื่อไบรท์บาร์ทว่า ***สำหรับไฟแนนเชียลไทม์ส เขาเป็นบุคคลแห่งปี แต่สำหรับประชาชนคนธรรมดาทั่วไป โซรอสถือเป็นศัตรูทางประชาธิปไตยของคนเหล่านั้น***

โดยโฆษกรัฐบาลฮังการี ดร.โซลทาน โคแวคส์ ( Dr Zoltán Kovács) ได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “สำหรับไฟแนนเชียลไทมส์ โซรอสถือเป็นนักบุญ (จบ) ..พวกบุคคลจิตสาธารณะที่ไม่มีความเห็นแก่ตัว”

ทั้งนี้ไบร์ทบาร์ทรายงานว่า โฆษกรัฐบาลของออร์แบนได้เรียกสื่อไฟแนนเชียลไทม์สว่า “เป็นพวกจุดอ่อน”

และเขายังกล่าวต่อว่า สื่อไฟแนนเชียลไทม์สและพวกเสรีนิยมและสื่อกระแสหลักไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์โซรอสในแง่ลึกถึงความไม่ชอบมาพากลทางการเมืองของเขาได้ บุคคลที่มักมีวาระของตัวเองอยู่เบื้องหลัง เป็นพวกที่ทุ่มเงินเพื่อเป้าประสงค์ทางการเมือง วางแผนในสิ่งที่เขาไม่ได้รับฉันทามติ

โคแวคส์ยังวิจารณ์เลยไปถึงการเรียกขานโซรอสจากไฟแนนเชียลไทม์สที่ว่า เป็นเสมือนสัญลักษณ์มาตรฐานแห่งประชาธิปไตยเสรีนิยมและสังคมเปิด โดยชี้ว่า นี่เป็นการล้อเล่นใช้ไหม เพราะ “สัญลักษณ์มาตรฐานแห่งประชาธิปไตยเสรีนิยมและสังคมเปิด” ได้ทุ่มเม็ดเงินให้กับการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อบ่อนทำลายรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งตามหลักประชาธิปไตย และต้องการเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของมติมหาชนเช่น BREXIT ของอังกฤษ

ไบรท์บาร์ทกล่าวว่า เป็นความจริงที่โซรอสได้ทุ่มเงินจำนวนหลายแสนปอนด์สนับสนุนกลุ่มการเคลื่อนไหวที่นั่นเพื่อกลับมติBREXIT ที่ยังคงไม่ประสบความสำเร็จมาจนถึงเวลานี้ รวมไปถึงโซรอสยังเป็นตัวการในการช่วยเหลือให้มีการพบกันเกิดขึ้นระหว่างนักการเมืองสายนิยมEUที่ทรงอิทธิพลและกลุ่มผู้บริจาคของพรรครัฐบาลอังกฤษและพรรคแรงงานอังกฤษเกิดขึ้นที่แมนชันส่วนตัวของโซรอสในเชลซี

โฆษกรัฐบาลฮังการีได้กล่าวโจมตีโซรอส โดยชี้ว่า พ่อมดการเงินวอลสตรีทได้ใช้เงินหลายหมื่นดอลลาร์ในการล็อบบี้รัฐบาลสหรัฐฯเพื่อต่อต้านฮังการีเกิดขึ้นในปี 2007 และเหตุการณ์นี้คล้ายกับความพยายามกับบรัสเซลส์ของสหภาพยุโรป ซึ่งสิ่งที่ทางโคแวคส์ได้ย้ำในรายงานของไบรท์บาร์ทคือ

“โซรอสและกลุ่ม NGO ต่างๆที่ยังคงต้องพึ่งกับการช่วยเหลือทางการเงินของเขายังคงให้การสนับสนุนแนวทางการอพยพ พรมแดนเสรีแบบสุดโต่งในช่วงเวลาที่วิกฤตผู้อพยพเข้าสู่ยุโรปทำให้เกิดความยุ่งยากต่อรัฐในการปกป้องพรมแดนยุโรปและทำให้เกิดปัญหาด้านความมั่นคง และนั่นถือเป็นสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับที่พลเมืองในฮังการี และคนอื่นๆในประเทศยุโรปจำนวนมากต้องการ”

โคแวคส์ย้ำว่า “แนวความคิดผลักดันให้ก้าวสู่ความเป็นสังคมเปิดของโซรอส” ตามการยกย่องของไฟแนนเชียลไทม์สนั้นบั่นทอนต่อความเป็นรัฐ และเหยียบย่ำต่อเจตจำนงประชาชนที่รู้ว่าไม่มีพรมแดน”







กำลังโหลดความคิดเห็น