เอเอฟพี - ตำรวจอังกฤษจับกุม 2 ผู้ต้องสงสัยนำโดรนขึ้นบินอย่างผิดกฎหมายบริเวณท่าอากาศยานลอนดอนแกตวิก จนเป็นเหตุให้ต้องมีการปิดสนามบินนานถึง 36 ชั่วโมง และทำให้ผู้โดยสารนับแสนคนที่จะเดินทางในช่วงวันหยุดคริสต์มาสต้องพลาดเที่ยวบิน
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (19) มีผู้สังเกตเห็นโดรนหลายลำลอยวนอยู่รอบๆ สนามบินซึ่งมีผู้โดยสารคับคั่งเป็นอันดับ 2 ของอังกฤษ ส่งผลให้ต้องมีการระงับเที่ยวบินขึ้น-ลง สร้างความเดือดร้อนต่อผู้โดยสารมากกว่า 120,000 คน
“ในส่วนของกระบวนการสอบสวนเรื่องการใช้โดรนอย่างผิดกฎหมาย จนส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเที่ยวบินทั้งเข้าและออกจากสนามบินแกตวิก ทางตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 2 ราย เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 21 ธ.ค.” เจมส์ คอลลิส ผู้กำกับการตำรวจอังกฤษ ระบุ
“เราจะเปิดการสอบสวนทุกช่องทาง จนกว่าจะมั่นใจว่าสามารถลดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร”
ตำรวจอังกฤษยังขอให้ประชาชนและผู้โดยสารช่วยกันเป็นหูเป็นตา และแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบทันทีหากพบเห็นโดรนบินใกล้กับสนามบินอีก
ตำรวจซัสเซ็กส์แถลงว่า เจ้าหน้าที่ “ใช้กลยุทธ์หลายอย่าง” ในการตามล่ากลุ่มผู้ใช้โดรนปริศนา และได้มีมาตรการอันยืดหยุ่นเพื่อตรวจจับและลดความเสี่ยงที่จะเกิดการรุกล้ำจากอากาศยานไร้คนขับในอนาคต
การบินโดรนใกล้ๆ สนามบินนั้นมีความเสี่ยงหลายอย่าง เช่น โดรนอาจจะไปเฉี่ยวชนกับเครื่องบิน หรือถูกดูดเข้าไปในเครื่องยนต์จนเป็นเหตุให้แบตเตอรีลิเธียมซึ่งติดไฟง่ายเกิดการระเบิด และก่อหายนะร้ายแรงตามมา
เจสัน ทิงลีย์ ตำรวจประจำมณฑลซัสเซ็กส์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานการพบเห็นโดรนใกล้สนามบินแกตวิกมากกว่า 50 ครั้งหลังมีผู้แจ้งเตือนครั้งแรกเมื่อ 21.00 น. วันพุธ (19) และถึงขั้นมีการพิจารณากันว่าจะใช้วิธียิงโดรนเหล่านั้นให้ตก
จัสติน เบอร์เทนชอว์ หัวหน้าหน่วยตำรวจติดอาวุธประจำมณฑลซัสเซ็กส์และเซอร์รีย์ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (20) ว่า “ทุกครั้งที่เราเข้าไปใกล้จนเกือบจะถึงตัวผู้ก่อเหตุ โดรนเหล่านั้นจะหายไป แต่เมื่อเราคิดจะเปิดสนามบิน โดรนพวกนั้นก็จะโผล่มาอีก”
ตำรวจอังกฤษเชื่อว่า น่าจะมีโดรนมากกว่า 1 ตัวถูกใช้ก่อเหตุป่วนเมืองครั้งนี้
ทั้งนี้ หลังจากสนามบินแกตวิกเริ่มเปิดทำการในวันศุกร์ (21) ยังคงมีผู้แจ้งพบเห็นโดรนอีกครั้งในเวลา 17.10 น. ทำให้เที่ยวบินต้องถูกระงับไปอีกราวๆ 1 ชั่วโมง “เพื่อความปลอดภัย” โฆษกสนามบินระบุ
