xs
xsm
sm
md
lg

เฟดเมินทรัมป์กดดัน ขึ้นดอกเบี้ยอีก0.25%แต่ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้น

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี - ธนาคารสหรัฐฯ(เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในวันพุธ(19ธ.ค.) แต่ขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมีมา ว่าจะชะลอการปรับขึ้นเพิ่มเติม เพื่อจับตาดูความชัดเจนของเศรษฐกิจ

แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวของเฟดจะกระพือความโกรธเกรี้ยวแก่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ หลังจากผู้นำรายนี้ใช้ทวิตเตอร์โจมตีธนาคารกลางอเมริกาหลายต่อหลายครั้ง ต่อการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้นนโยบายเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้

อย่างไรก็ตามเฟดได้ตัดสินใจในสิ่งที่เหล่านักเศรษฐศาสตร์บางส่วนเรียกว่า "เป็นการปรับขึ้นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น" ด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงสุดอยู่ที่ 2.5% ในขณะที่ส่งสัญญาณเดินหน้าอย่างระมัดระวัง โดยจะจับตาดูสถานการณ์ต่างๆของโลกอย่างใกล้ชิด

ถ้อยแถลงของเฟดที่เผยแพร่ออกมาหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายเป็นเวลา 2 วัน ระบุว่าในขณะที่ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจยังคง "สมดุล" แต่ทางธนาคารกลาง "จะยังเดินหน้าจับตาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินโลก และประเมินนัยของสถานการณ์เหล่านั้นสำหรับแนวโน้มทางเศรษฐกิจ"

เศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังเผชิญหน้ากับโอกาสเกิดความท้าทายต่างๆนานาจากสงครามการค้าของทรัมป์, เศรษฐกิจจีนชะลอตัวและความเป็นไปได้ที่จะเกิดความยุ่งเหยิงทางเศรษฐกิจและการเงินตามหลังการถอนตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ(เบร็กซิต)

ด้วยเศรษฐกิจสหรัฐฯส่งสัญญาณมากขึ้นเรื่อยๆว่าอาจถึงจุดพีคสุดแล้ว มันได้ก่อความหวาดวิตกแก่ตลาดทุนและฉุดตลาดหุ้นดิ่งลงหนักในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ยังได้เผยแพร่รายงานประมาณการการติบโตรายไตรมาส ด้วยเหล่าคณะกรรมการมองว่าเศรษฐกิจมีการเติบโตเพียงเล็กน้อยจนถึงขั้นทำให้พวกเขาคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกเพียง 2 ครั้งในปีหน้า จากเดิมที่คาดหมายไว้เมื่อเดือนกันยายน ว่าน่าจะมีการปรับขึ้นอีก 3 ครั้ง

เฟดปรับลดประมาณการการเติบโตของจีดีพีในปี 2019 ลงจาก 2.5% สู่ 2.3% และแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อน่าจะอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมาย 2%ของเฟด แม้ตัวเลขคนว่างงานจะยังคงอยู่ที่ 3.5%ในปีหน้า ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี ส่วนแนวโน้มการเติบของเศรษฐกิจสหรัฐฯในปี 2020 และ 2021 คาดหมายว่าจะชะลอตัวลงไปอีก อยู่ที่ระดับ 2% และ 1.8% ตามลำดับ
กำลังโหลดความคิดเห็น