รอยเตอร์ - เจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) กล่าวหาประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าบั่นทอนหลักนิติธรรมในสหรัฐอเมริกาด้วยการพูดใส่ร้ายเอฟบีไอ พร้อมเรียกร้องให้สมาชิกพรรครีพับลิกัน “ลุกขึ้นสู้และออกมาพูดความจริง” เกี่ยวกับพฤติกรรมของประธานาธิบดี
โคมีย์ ซึ่งถูก ทรัมป์ ไล่ออกเมื่อเดือน พ.ค. ปีที่แล้วขณะเป็นผู้นำการสอบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงศึกเลือกตั้งปี 2016 รวมถึงเรื่องที่ทีมหาเสียงทรัมป์ถูกครหาว่าอาจมีส่วนรู้เห็น ได้เข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร 2 ชุดเมื่อวันจันทร์ (17 ธ.ค.) ซึ่งถือเป็นครั้งที่สองในเดือนนี้
โคมีย์ ระบุว่า คณะกรรมธิการได้สอบถามเขาอีกครั้งเรื่องชุดอีเมลของอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน รวมถึงเอกสารฉบับหนึ่งที่พรรครีพับลิกันระบุว่าถูกใช้อ้างความชอบธรรมในการขอศาลอนุมัติสอดแนมอดีตทีมงานหาเสียง ทรัมป์
“ในขณะที่ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกายังพูดโกหกเกี่ยวกับเอฟบีไอ โจมตีเอฟบีไอ และโจมตีหลักนิติธรรมของประเทศ คำถามเหล่านี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้อย่างนั้นหรือ?” โคมีย์ บอกกับสื่อมวลชน หลังใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมงตอบคำถามของคณะกรรมาธิการยุติธรรม และคณะกรรมาธิการตรวจสอบจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร
“พรรครีพับลิกันเคยเข้าใจดีว่า การกระทำของประธานาธิบดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญ คำพูดของประธานาธิบดีสำคัญ หลักนิติธรรมสำคัญ และความจริงก็สำคัญ... คนรีพับลิกันเหล่านั้นหายไปไหนหมดในวันนี้?”
ทรัมป์ เคยวิจารณ์กระบวนการสอบสวนคดีรัสเซียซึ่งนำโดยอัยการพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ว่าเป็นแค่การ “ล่าแม่มด” และล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ (16) ก็ได้ทวีตข้อความด่าอดีตทนายส่วนตัว ไมเคิล โคเฮน ว่าเป็น “หนูสกปรก” ที่ไปยอมร่วมมือกับอัยการ
ทรัมป์ ยังกล่าวหาเจ้าหน้าที่เอฟบีไอว่าบุกรุกสำนักงานของ โคเฮน ทั้งที่ในความเป็นจริงเอฟบีไอมีหมายค้นอย่างถูกต้อง
โคเฮน ถูกศาลพิพากษาจำคุก 3 ปีเมื่อวันพุธที่แล้ว (12) ในความผิดฐานละเมิดกฎหมายระดมทุนหาเสียงด้วยการแอบจ่ายเงินปิดปากสองดาวโป๊ที่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ ทรัมป์ ก่อนจะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016 โดย โคเฮน อ้างว่าทำไปตามคำสั่งของ ทรัมป์
“เอฟบีไอต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาและพวกลูกสมุนออกมาพูดจาใส่ร้ายอยู่เรื่อยๆ” โคมีย์ ให้สัมภาษณ์ หลังถูกสื่อถามว่าตัวเขาเองมีส่วนทำลายชื่อเสียงของเอฟบีไอด้วยหรือไม่
“เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งต้องมีใครบางคนลุกขึ้นสู้เพื่อค่านิยมของประเทศนี้ อย่ามัวแต่นิ่งเงียบ แต่ต้องลุกขึ้นมาพูดความจริง” โคมีย์ กล่าว
อดีตผอ.เอฟบีไอยังชี้ว่า การที่ ทรัมป์ พูดเหยียดหยาม โคเฮน ว่าเป็น “หนูสกปรก” นั้นเท่ากับบั่นทอนหลักนิติธรรมเช่นกัน
