รอยเตอร์ - ศาลส่วนกลางในรัฐเทกซัสมีคำพิพากษาวานนี้ (14 ธ.ค.) ว่ากฎหมายสาธารณสุข Affordable Care Act หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โอบามาแคร์” ละเมิดรัฐธรรมนูญด้วยการบังคับให้ประชาชนต้องซื้อประกันสุขภาพ ขณะที่มีแนวโน้มว่าคดีนี้อาจยืดเยื้อไปจนถึงศาลสูงสุด
ผู้พิพากษา รีด โอคอนเนอร์ ประจำศาลแขวงเมืองฟอร์ตเวิร์ธมีความเห็นพ้องกับอัยการและผู้ว่าการ 20 รัฐในอเมริกาซึ่งร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องว่า กฎหมายปฏิรูปภาษีที่ประกาศใช้เมื่อปีที่แล้วได้ยกเลิกบทลงโทษทางภาษีสำหรับพลเมืองที่ไม่ได้ทำประกันสุขภาพ และนั่นส่งผลให้กฎหมายโอบามาแคร์ทั้งฉบับขัดต่อรัฐธรรมนูญ
พรรครีพับลิกันพยายามยื่นฟ้องศาลเพื่อล้มโอบามาแคร์ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จเชิงนโยบายของอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ตั้งแต่กฎหมายฉบับนี้เริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2010
ผู้พิพากษาโอคอนเนอร์ ระบุว่า การที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามกฎหมายปฏิรูปภาษีวงเงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้ข้อบังคับรายบุคคล (individual mandate) ในโอบามาแคร์ที่บังคับให้ชาวอเมริกันต้องซื้อประกันสุขภาพ หรือไม่ก็จ่ายภาษีแทน กลายเป็นสิ่งที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และเนื่องจากข้อบังคับนี้เป็น ‘หัวใจหลัก’ ของโอบามาแคร์ จึงควรถือว่ากฎหมายทั้งฉบับขัดต่อรัฐธรรมนูญด้วย
คำพิพากษาของโอคอนเนอร์มีขึ้นเพียงวันเดียว ก่อนจะสิ้นสุดระยะเวลา 45 วันที่เปิดให้ชาวอเมริกันลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการโอบามาแคร์ในปี 2019
ปีนี้มีผู้บริโภคในอเมริกาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการโอบามาแคร์สูงถึง 11.8 ล้านคน ตามข้อมูลจากศูนย์บริการเมดิแคร์ (Medicare) และเมดิเคต (Medicaid) ของรัฐบาลสหรัฐฯ
โฆษกของ ซาเวียร์ เบเซอร์รา อัยการสูงสุดรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มอัยการสายเดโมแครตที่ปกป้องโอบามาแคร์ ประกาศจะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษานี้ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 5 แห่งสหรัฐอเมริกา (5th US Circuit Court of Appeals)
ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว ยืนยันว่ากฎหมายโอบามาแคร์จะยังมีผลบังคับใช้ต่อไปก่อน เนื่องจากคาดว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์จนถึงชั้นศาลสูงสุด
ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความชื่นชมคำพิพากษาของศาลเทกซัส และเรียกร้องให้สภาคองเกรส “ออกกฎหมายที่เข้มแข็งและให้บริการทางการแพทย์อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงคุ้มครองผู้ที่มีอาการป่วยอยู่ก่อนแล้ว”