เอเจนซีส์ - แจ็ค ดอร์ซีย์ (Jack Dorsey) ซีอีโอทวิตเตอร์โดนวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วหลังส่งทวิตเตอร์เกี่ยวกับประสบการณ์พักผ่อนนาน 10 วันโดยการนั่งวิปัสสนากรรมฐานในพม่าเพื่อหาความสงบทางใจ พร้อมชักชวนให้สาวกผู้ติดตามจำนวนมากเดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจด้วย แต่โดนกล่าวหาไม่สนใจชะตากรรมของชนกลุ่มน้อยโรฮิงญาที่ตามความเห็นของยูเอ็นโดนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่นั่น
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(9 ธ.ค)ว่า แจ็ค ดอร์ซีย์ (Jack Dorsey) ประธานบริหารบริษัททวิตเตอร์ที่มีฐานอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ ได้ส่งข้อความชุดใหญ่ผ่านแอกเคาน์ทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อวันอาทิตย์(9) โดยกล่าวว่า
“ในการฉลองวันเกิดในปีนี้ของผม ผมได้ไปท่องเที่ยวเชิงวิปัสสนากรรมฐานอันเงียบสงบ โดยในเที่ยวนี้ได้ไปที่ ปินอูละวิน (Pyin U Lwin) พม่า (พร้อมไอคอนธงชาติพม่าประกอบ) เราอยู่กับความสงบในช่วงกลางคืนของวันเกิดผมเมื่อวันที่ 19 และนี่เป็นสิ่งที่ผมได้รู้มา” รายงานจากทวิตเตอร์ของดอร์ซีย์
และในทวิตเตอร์ ดอร์ซีย์ยังกล่าวต่อว่า
“พม่าถือเป็นประเทศที่สวยงามอย่างแท้จริง ผู้คนต่างล้วนมีความสุขและอาหารอร่อยมาก ซึ่งผมได้ไปเยือนเมืองร่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และพุกาม พวกเราได้ไปเยือนอารามหลายแห่งทั่วประเทศเพื่อทำวิปัสสนากรรมฐาน”
อย่างไรก็ตาม กระแสโรฮิงญายังคงมาแรงในโลกตะวันตกเมื่อดูได้จากการถูกริบรางวัลคืนของผู้นำหญิงพม่า อองซาน ซูจี ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรหากว่าซีอีโอทวิตเตอร์จะโดนบรรดานักวิจารณโลกตะวันตกชี้หน้าว่า เขาไม่สนใจต่อชะตากรรมของชนกลุ่มน้อยโรฮิงญา ซึ่งทางสหประชาชาติได้เคยออกมาประกาศว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับชนกลุ่มน้อยเทียบเท่าได้กับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
โดยแอนดรูว์ สโตห์เลน(Andrew Stroehlein) ผู้อำนวยด้านสื่อยุโรปของกลุ่มฮิวแมนไรท์วอช ได้ทวีตแสดงความเห็นว่า
“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านวิปัสสนากรรมฐาน แต่มันควรที่จะทำให้คุณสนใจแต่ตัวเองเป็นอย่างมากจนกระทั่งคุณลืมแม้แต่ที่จะเอ่ยถึงไปว่าได้ไปอยู่ในประเทศที่ใช้กองทัพในการสังหารหมู่และข่มขืนหมู่ บังคับให้คนหลายแสนต้องหนี เกิดขึ้นในประเทศที่มีปัญหาด้านมนุษยธรรมร้ายแรงที่สุดในโลกในเวลานี้”
ในขณะที่ โมฮัมเหม็ด แจมจุม(Mohammed Jamjoom) นักข่าวสื่อกาตาร์ อัลญะซีเราะฮ์ ที่ได้เคยสัมภาษณ์ผู้ลี้ภัยโรฮิงญากล่าวว่า การทวีตของผู้บริหารทวิตเตอร์ทำให้เขาถึงกับอึ้งพูดไม่ออก
ส่วนเลียม สแต็ก( Liam Stack) ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สของสหรัฐฯ ได้ทวีตว่า
“ซีอีโอใหญ่ของทวิตเตอร์ไปพักผ่อนในประเทศที่ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในปีที่แล้ว ที่ถูกทำให้ลุกกระพือโหมไปด้วยข้อมูลที่ผิดพลาดและความเกลียดชังที่ถูกเผยแพร่ออกมาโดยรัฐบาลผ่านโลกโซเชียลมีเดีย”
เดอะการ์เดียนชี้ว่า มีนักวิจารณ์บางส่วนแสดงความเห็นว่า โซเชียลมีเดียถือเป็นช่องทางแสดงออกที่มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ข่าวที่เป็นเท็จออกไปทั่วโลกเกี่ยวกับโรฮิงญา
ซึ่งเดือนที่แล้ว เฟซบุ๊กซึ่งเป็นคู่แข่งของทวิตเตอร์ออกมายอมรับว่า ทำงานล้มเหลวในการป้องกันไม่ให้เฟชบุ๊กถูกใช้ในการปลุกระดมความรุนแรงนอกโลกออนไลน์ในพม่า