เอเอฟพี - สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวซึ่งได้อ่านคำถอดเทปบันทึกเสียงนาทีสังหาร ระบุคอลัมนิสต์คนดัง จามาล คาช็อกกี พูดว่า “ผมหายใจไม่ออก” เป็นประโยคสุดท้ายก่อนจะสิ้นลมหายใจ
แหล่งข่าวเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า จากคำถอดเทปบ่งบอกชัดเจนว่ากลุ่มคนร้ายได้เตรียมวางแผนมาเป็นอย่างดี และโทรศัพท์ติดต่อกับใครบางคนเพื่อรายงานความคืบหน้าเป็นระยะๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตุรกีมั่นใจว่าน่าจะเป็น ‘เจ้าหน้าที่ระดับสูงสุด’ ของริยาด
คาช็อกกี ซึ่งเป็นคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ถูกสังหารในเวลาไม่นานนัก หลังเดินเข้าไปติดต่อสถานกงกุลซาอุดีอาระเบียประจำนครอิสตันบูลเมื่อวันที่ 2 ต.ค. เพื่อทำเรื่องขอจดทะเบียนสมรสกับคู่หมั้นชาวตุรกี
ซีเอ็นเอ็น ระบุว่า คำถอดเทปได้บรรยายถึงความพยายามต่อสู้ขัดขืนของ คาช็อกกี รวมถึงเสียงในขณะที่ร่างของนักข่าวรายนี้ถูกกลุ่มฆาตกรใช้เลื่อยหั่นออกเป็นชิ้นๆ
แหล่งข่าวซึ่งให้ข้อมูลกับซีเอ็นเอ็นได้อ่านคำถอดเทปของหน่วยข่าวกรองตุรกีซึ่งถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้ว และยังได้รับฟังข้อมูลสรุปเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมนักข่าวผู้นี้ด้วย
กระทรวงการต่างประเทศซาอุฯ ออกมาปฏิเสธข้อเรียกร้องของประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี ซึ่งต้องการให้ริยาดส่งตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัยทั้งหมดไปดำเนินคดีที่ตุรกีในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน
“เราไม่มีนโยบายเนรเทศพลเมืองของเราเอง” อะเดล อัล-จูเบร์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศซาอุฯ ให้สัมภาษณ์สื่อที่กรุงริยาด ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมซัมมิตคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) เมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.)
ทางการตุรกีเชื่อว่าซาอุฯ ส่งทีมนักฆ่า 15 คนไปดักรอสังหาร คาช็อกกี ที่สถานกงสุลในอิสตันบูล ขณะที่ซาอุฯ อ้างว่าเป็นแค่ปฏิบัติการที่ “ผิดพลาด” เท่านั้น ซึ่งขัดแย้งสิ้นเชิงกับข้อมูลในเทปบันทึกเสียงของตุรกี
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยังคงเลี่ยงที่จะกล่าวโทษว่ามกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบียทรงเป็นผู้บงการสังหาร คาช็อกกี แม้สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) จะสรุปผลสอบสวนออกมาเช่นนั้นก็ตาม
คดีฆาตกรรม จามาล คาช็อกกี ได้บั่นทอนทั้งชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของซาอุฯ ในเวทีโลก ขณะที่ชาติตะวันตก เช่น สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และแคนาดา ได้ประกาศขึ้นบัญชีดำพลเมืองซาอุฯ เกือบ 20 คนที่มีส่วนพัวพันกับคดีนี้แล้ว