ถึงคิว‘ฮึ่ม’วอชิงตันบ้าง!! จีนโวยใส่ทูตมะกันให้ถอนหมายจับลูกสาวผู้ก่อตั้ง ‘หัวเว่ย’ บอกปักกิ่งจะตอบโต้ต่อ‘โดยขึ้นกับการกระทำของสหรัฐฯ’

รอยเตอร์/เอเอฟพี –หลังจากประท้วงแคนาดาเมื่อวันเสาร์ (9 ธ.ค.) ไปแล้ว ในวันอาทิตย์ (10) กระทรวงการต่างประเทศจีนก็เรียกเอกอัครราชทูตสหรัฐฯมาพบ เพื่อยื่น “ประท้วงอย่างรุนแรง” ในทำนองเดียวกัน กรณีที่ทำให้ เมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ถูกจับกุมในแคนาดา พร้อมกับบอกว่าสหรัฐฯควรถอนการออกหมายจับเธอ ซึ่งฝ่ายจีนบอกว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ไร้เหตุผล และ “น่ารังเกียจอย่างที่สุด” ทั้งนี้ทั้งนั้น “จีนจะตอบโต้ต่อไปอีกโดยขึ้นอยู่กับการกระทำของสหรัฐฯ”

เมิ่ง ซึ่งเป็นบุตรสาวคนโตของ เริ่น เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย ถูกจับกุมขณะกำลังเปลี่ยนเครื่องบินที่เมืองแวนคูเวอร์, แคนาดา ตามคำขอของฝ่ายสหรัฐฯตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. และอยู่ในกระบวนการที่ศาลแห่งหนึ่งของแคนาดากำลังพิจารณาเพื่อจัดส่งตัวเธอในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีในอเมริกา โดยที่ฝ่ายสหรัฐฯกล่าวหาว่าเธอมีความผิดฐานปกปิดความเชื่อมโยงระหว่างบริษัทของเธอกับบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งพยายามที่จะขายอุปกรณ์ไปให้แก่อิหร่าน อันเป็นการละเมิดมาตรการแซงก์ชั่นของอเมริกา

เล่อ อี้ว์เฉิง รองรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน บอกกับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เทอร์รี แบรนสตัด ที่ถูกเรียกตัวเข้าพบว่า สหรัฐฯได้ตั้ง “ข้อเรียกร้องที่ไร้เหตุผล” ต่อแคนาดาเพื่อให้กักกัน เมิ่ง เอาไว้ ขณะเธอกำลังเดินทางผ่านเมืองแวนคูเวอร์ ของแคนาดา ทั้งนี้ตามการแถลงของกระทรวงการต่างประเทศจีน

“การกระทำของสหรัฐฯเป็นการละเมิดอย่างสาหัสร้ายแรงต่อสิทธิตามกฎหมายอันชอบธรรมของพลเมืองจีนผู้นี้ และโดยลักษณะของข้อเรียกร้องก็มีความน่ารังเกียจอย่างที่สุด” เล่อบอกกับแบรนสตัด ด้วยข้อความทำนองเดียวกับที่เขาได้กล่าวกับ จอห์น แมคคอลลัม เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำปักกิ่งในคืนวันเสาร์ (9)

จีนเรียกร้องอย่างแข็งขันให้สหรัฐฯเอาใจใส่กับจุดยืนอันเคร่งครัดและยุติธรรมของประเทศจีน และถอนหมายจับตัวเมิ่ง รองรัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าวต่อ

“จีนจะตอบโต้ต่อไปอีกโดยขึ้นอยู่กับการกระทำของสหรัฐฯ” เขากล่าวโดยไม่ได้แจ้งรายละเอียดชัดเจน ทั้งนี้ในคืนวันเสาร์ เล่อก็กล่าวกับเอกอัครราชทูตแคนาดาว่า แคนาดาจะเผชิญกับผลต่อเนื่องที่สาหัสร้ายแรง หากไม่รีบปล่อยตัวเมิ่งในทันที

ทางด้านสำนักข่าวเอเอฟพีอ้างความเห็นของพวกนักวิเคราะห์ที่มองว่า เมิ่งอาจกลายเป็นหมากตัวหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ต่อรอง ในการเจรจาคลี่คลายสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ซึ่งดำเนินมาหลายเดือนแล้ว และเริ่มส่งผลกระทบกระเทือนให้เห็น

ระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อวันศุกร์ (7) ของศาลสูงสุดรัฐบริติชโคลัมเบีย เมืองแวนคูเวอร์ ก่อนที่ผู้พิพากษาจะสั่งหยุดพักและเปิดพิจารณาต่อในวันจันทร์ (11) นั้น อัยการของรัฐบาลแคนาดา จอห์น กิบบ์-คาร์ลสเลย์ ร้องขอศาลอย่ายอมให้จำเลยได้ประกันตัว โดยระบุว่าเธอถูกตั้งข้อหาซึ่งหากผิดจริงอาจถูกจำคุกมากกว่า 30 ปี

แคนาดามีข้อตกลงเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับสหรัฐฯมานานแล้ว ซึ่งกำหนดให้แคนาดาให้ความร่วมมือในการส่งตัวผู้ต้องสงสัยตามคำขอของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ทั้งนี้หากข้อหาความผิดที่กำลังขอให้ส่งตัว ก็ถือเป็นความผิดทางอาญาในแคนาดาด้วย โดยที่ศาลแคนาดาจะเป็นผู้ตัดสินว่ามีหลักฐานเพียงพอจะสนับสนุนให้ส่งตัวไปดำเนินคดีในสหรัฐฯหรือไม่

กระบวนการในการพิจารณาส่งผู้ร้ายข้ามแดนนี้อาจกินเวลาเป็นแรมเดือน กระทั่งเป็นแรมปี ถ้าหากคดีมีการต่อสู้ในขั้นอุทธรณ์ด้วย