เอเอฟพี – รัฐบาลเปรูประกาศวานนี้ (7 ธ.ค.) ว่าจะเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม ‘ลิมากรุ๊ป’ ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวเนซุเอลา และบังคับใช้มาตรการห้ามเดินทาง (travel ban) กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลของประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร
กลุ่มความร่วมมือ 14 ประเทศซึ่งประกอบด้วยแคนาดาและชาติสำคัญๆ ในละตินอเมริกาปฏิเสธที่จะยอมรับผลเลือกตั้งในเวเนซุเอลาเมื่อเดือน พ.ค. ซึ่ง มาดูโร เป็นฝ่ายชนะ และได้ครองอำนาจสมัยที่ 2 ต่ออีก 6 ปี
เนสตอร์ โปโปลิซิโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเปรู แถลงว่า “ผลที่ตามมาก็คือ เราจะเสนอให้ทุกประเทศพร้อมใจกันตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวเนซุเอลา”
รัฐมนตรีผู้นี้ยืนยันต่อสื่อมวลชนว่า เปรูเตรียมที่จะประกาศบทลงโทษในการประชุมครั้งถัดไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 19 ธ.ค. ซึ่งรวมถึงการสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ระดับสูงเวเนซุเอลาเดินทางผ่านเข้าประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อกดดัน “ระบอบเผด็จการมาดูโร” ก่อนที่ผู้นำหัวซ้ายจัดรายนี้จะเข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในวันที่ 10 ม.ค. ปีหน้า
มาดูโร ถือเป็นทายาททางการเมืองที่อดีตประธานาธิบดี อูโก ชาเบซ คัดเลือกมาเองกับมือ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 5 มี.ค. ปี 2013
อย่างไรก็ตาม เวเนซุเอลาในยุคของ มาดูโร กลับเผชิญทั้งปัญหาการเมืองและวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งทะลุเพดาน รวมถึงภาวะขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นและเหตุจลาจลทางการเมืองทำให้ชาวเวเนซุเอลาหนีออกนอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 2.3 ล้านคนตั้งแต่ปี 2015 และกำลังกลายเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินระดับภูมิภาค