xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ จวก ‘มอสโก’ ใส่ร้ายกบฏซีเรียใช้ ‘แก๊สพิษคลอรีน’ ถล่มอะเลปโป

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

หญิงผู้บาดเจ็บคนหนึ่งถูกหามส่งโรงพยาบาล หลังเกิดเหตุโจมตีซึ่งสื่อรัฐบาลซีเรียอ้างว่าเป็นการใช้แก๊สพิษที่เมืองอะเลปโป เมื่อวันที่ 24 พ.ย.
เอเอฟพี - สหรัฐฯ และอังกฤษกล่าวหาวานนี้ (7 ธ.ค.) ว่ารัสเซียจงใจกุเรื่องเพื่อยัดเยียดข้อหาใช้อาวุธเคมีให้ฝ่ายกบฏในซีเรีย พร้อมเตือนมอสโกว่าอย่าได้คิดบ่อนทำลายข้อตกลงหยุดยิง

กระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างว่าฝ่ายกบฏยิงอาวุธที่บรรจุแก๊สพิษคลอรีนเข้าใส่เมืองอะเลปโป (Aleppo) ซึ่งอยู่ในการควบคุมของรัฐบาล บาชาร์ อัล-อัสซาด เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่สื่อรัฐบาลซีเรียก็รายงานว่ามีประชาชนราว 100 คนถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยอาการหายใจติดขัดคล้ายถูกอาวุธเคมี

รัสเซียใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างโจมตีทางอากาศใส่จังหวัดอิดลิบ (Idlib) ซึ่งเป็นฐานที่มั่นใหญ่แห่งสุดท้ายของพวกกบฏและนักรบญิฮาดที่ต้องการโค่นอัสซาด ทำให้ข้อตกลงหยุดยิงที่เริ่มมีผลบังคับตั้งแต่กลางเดือน ก.ย. ส่อแววล่มอีกรอบ

สหรัฐฯ ยืนยันว่า “มีข้อมูลเชื่อถือได้” ว่าเรื่องกบฏใช้แก๊สพิษคลอรีนนั้นไม่เป็นความจริง แต่เป็นกองกำลังฝ่ายรัสเซียกับซีเรียต่างหากที่ยิงแก๊สน้ำตา

“สหรัฐฯ รู้สึกกังวลอย่างยิ่งที่กองกำลังฝ่ายรัฐบาลอัสซาดยังคงตรึงกำลังในพื้นที่ซึ่งถูกโจมตี ทำให้พวกเขาสามารถสร้างหลักฐานปลอมและนำสารพิษไปใส่ไว้ในจุดเกิดเหตุ ก่อนที่องค์การห้ามใช้อาวุธเคมี (OPCW) จะเข้าไปตรวจสอบได้ทัน” โรเบิร์ต พัลลาดิโน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง

พัลลาดิโน ยังตำหนิรัสเซียและซีเรียว่าจงใจทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของข้อตกลงหยุดยิงในอิดลิบ

“เราขอฝากคำเตือนไปถึงรัสเซียและซีเรียว่าอย่าได้คิดก้าวก่ายหลักฐาน และเปิดทางให้ผู้ตรวจสอบอิสระเข้าพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย เพื่อจะได้นำตัวคนผิดมารับโทษ” เขากล่าว

ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษออกมาสำทับว่า “เป็นไปได้ยากมาก” ที่ฝ่ายกบฏจะเกี่ยวข้องกับการใช้แก๊สคลอรีน และข้อครหานี้น่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อใส่ร้ายพวกเขา หรือไม่ก็เป็นฝ่ายรัสเซียหรือซีเรียเองที่ปฏิบัติการผิดพลาด และถือโอกาสกล่าวโทษฝ่ายตรงข้าม

รัฐบาลตะวันตก รวมถึงองค์การสหประชาชาติและนักสิทธิมนุษยชน เชื่อว่ากองกำลังอัสซาดเป็นฝ่ายนำอาวุธเคมีออกมาใช้ในสงคราม

ปฏิบัติการสังหารหมู่ด้วยแก๊สพิษซารินที่เมืองข่านชัยคุน (Khan Sheikhun) เมื่อเดือน เม.ย. ปี 2017 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 83 ราย และทำให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ตัดสินใจออกคำสั่งยิงขีปนาวุธร่อน 59 ลูกถล่มฐานทัพอากาศในซีเรีย นับเป็นปฏิบัติการแทรกแซงทางทหารที่แม้แต่อดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา ก็ยังไม่เคยทำมาก่อน

ทั้งฝ่ายอัสซาดและมอสโกต่างปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีการใช้อาวุธเคมีที่ข่านชัยคุน และอ้างว่าคลิปวิดีโอภาพเหยื่อถูกพิษนั้นเป็นการจัดฉากขึ้นมา

สำหรับกรณีล่าสุด เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนามอ้างคำบอกเล่าจากคนในพื้นที่ซึ่งยืนยันว่า พวกเขาไม่ได้กลิ่นแก๊สคลอรีนหลังเกิดเหตุโจมตี

กำลังโหลดความคิดเห็น