เอเจนซีส์ – สหประชาชาติได้ร้องขอรัฐบาลจีนให้อนุญาตเข้าไปสำรวจภายในโรงเรียนปรับทัศนคติของมุสลิมอัยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ หลังแสดงความกังวลถึงสวัสดิภาพของคนจำนวนมากร่วมล้านคนที่ถูกปักกิ่งควบคุมตัวอยู่ด้านใน
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้(6 ธ.ค)ว่า มิเชล บาเชเลต์ (Michelle Bachelet) ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติซึ่งเป็นอดีตผู้นำชิลีได้เปิดเผยในวันพุธ(5)ว่า เธอต้องการยืนยันตรวจสอบรายงานความกังวลเกี่ยวกับสวัสดิภาพชาวมุสลิมซินเจียงอุยกูร์ที่ทางสำนักงานได้รับ
ซึ่งอดีตผู้ที่เคยถูกส่งตัวเข้าโรงเรียนปรับทัศนคติในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ได้ออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะว่า พวกเขาถูกทรมาน และบังคับให้เรียนในสิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์ของจีนต้องการ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ล้างสมอง เกิดขึ้นระหว่างถูกควบคุมตัวภายในค่ายกักกันขนาดใหญ่
ทั้งนี้ปักกิ่งเคยกล่าวว่า ค่ายเหล่านี้เป็นโรงเรียนอาสาฝึกอาชีพ และถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาแนวโน้มความรุนแรงที่เกิดขึ้นในกลุ่มประชากรซินเจียงอุยกูร์
แต่ทว่าบาเชเลต์ได้ชี้ว่า ทางสหประชาชาติขอเสนอให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิกในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงสุดโต่ง และเสริมต่อว่า “ทางเราหวังว่า เราจะสามารถร่วมกับจีนในการหารืออย่างจริงจังต่อปัญหานี้”
สื่อสหรัฐฯชี้ว่า การเรียกร้องนี้เกิดขึ้น 1 วันหลังจาก บาร์เบล คอฟเลอร์ (Barbel Kofler) ผู้แทนเยอรมันด้านนโยบายสิทธิมนุษยชน (Human Rights Policy) ออกมาเปิดเผยว่า เธอไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าไปภายในค่ายปรับทัศนคติระหว่างในการเยือนจีน และเธอยังแสดงความกังวลอย่างหนักถึงปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน
“ดิฉันรู้สึกตกใจต่อรายงานการปฎิบัติต่อชนกลุ่มน้อยอุยกูร์เชื้อสายเติร์ก...ซึ่งดิฉันต้องการที่จะมีโอกาสเข้าถึงประสบการณ์แรกในสถานการณ์จากในที่แห่งนั้น และจะยังคงผลักดันสำหรับการได้รับอนุญาตเพื่อให้ไปเยือนซินเจียงในเร็ววันนี้” รายงานจากช่วงหนึ่งของแถลงการณ์ของคอฟเลอร์ที่ออกมาในวันอังคาร(4)
ซึ่งในวันพุธ(5) บาเชเลต์ ได้กล่าวเตือนว่า “สิทธิมนุษยชนไม่สามารถแบ่งแยกได้”
โดยเธอชี้ว่า “คุณไม่สามารถกำหนดความสำคัญก่อนหลัง คุณไม่สามารถบอกว่าสิทธิมนุษยชนเหล่านี้สำคัญในขณะที่อีกส่วนนั้นไม่ ... คุณไม่สามารถเชิญแขกมาที่บ้าน เชื้อเชิญให้ร่วมรับประทานอาหาร แต่กลับไม่อนุญาตให้แขกเหล่านั้นแสดงความคิดเห็น”
และในตอนท้ายข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติย้ำว่า “คุณต้องทำให้มั่นใจว่าสิทธิมนุษยชนทุกประเภทนั้นได้รับการปกป้อง”