เอเอฟพี - อัยการพิเศษที่คุมสอบคดีรัสเซียแทรกแซงศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ เสนอให้ศาลละเว้นโทษจำคุกให้แก่ ไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากที่ ฟลินน์ ได้ให้ความร่วมมือต่อพนักงานสอบสวน “อย่างเต็มที่”
มุลเลอร์ ระบุในเอกสารคำร้องว่า ฟลินน์ ซึ่งรับสารภาพเมื่อปีที่แล้วว่าโกหกพนักงานสอบสวนเรื่องการติดต่อกับทูตรัสเซียหลัง ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย. ปี 2016 ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการสืบคดีอาญา ทั้งในความผิดของเขาเองและกรณีอื่นๆ โดยเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนถึง 19 ครั้ง
มุลเลอร์ ยังแจ้งต่อศาลวอชิงตันด้วยว่า แม้ ฟลินน์ จะกระทำความผิดร้ายแรง แต่นายพล 3 ดาววัยเกษียณและอดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาโหมผู้นี้ก็เคยมีประวัติทำงานรับใช้กองทัพและสาธารณชนมามาก
คำแนะนำของอัยการพิเศษมีขึ้นก่อนที่ศาลจะอ่านคำพิพากษาในคดีของ ฟลินน์ ซึ่งถูกเลื่อนมาแล้วถึง 4 ครั้งในรอบปีที่ผ่านมา
ความล่าช้าในการตัดสินลงโทษ ฟลินน์ สะท้อนให้เห็นว่า เขาได้กลายเป็นพยานปากสำคัญในการสอบสวนซึ่งอาจโยงไปถึงตัว ทรัมป์ และบรรดาคนใกล้ชิด
“เนื่องจากจำเลยได้ให้ความช่วยเหลือที่เป็นประโยชน์ การกำหนดระวางโทษต่ำสุด รวมถึงโทษที่ไม่ใช่การจำคุก จึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมและสามารถกระทำได้” มุลเลอร์ ระบุในบันทึกข้อความที่ส่งถึงศาล
ฟลินน์ เป็นอดีตทีมงาน ทรัมป์ คนแรกที่ยอมทำข้อตกลงรับสารภาพกับ มุลเลอร์ ซึ่งรับหน้าที่สืบหาความจริงกรณีทีมหาเสียง ทรัมป์ ถูกครหาว่าสมคบคิดกับรัสเซียแทรกแซงเลือกตั้งเมื่อปี 2016
ฟลินน์ เคยทำงานอยู่ในทีมหาเสียงของทรัมป์ ก่อนจะได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในช่วงที่ ทรัมป์ ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีใหม่ๆ และด้วยเหตุนี้จึงนับว่าเป็นพยานปากเอกสำหรับคดีรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม บางคนมองว่าการที่ ฟลินน์ เคยโกหกพนักงานสอบสวนอาจจะทำให้คำพูดของเขาน่าเชื่อถือน้อยลง
เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ปี 2017 หรือเพียง 4 วันหลังจากที่ ทรัมป์ เข้าพิธีสาบานตน ฟลินน์ ได้พูดโกหกต่อพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบทสนทนาระหว่างเขากับ เซียร์เก คิลส์ยัก ซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ ในขณะนั้น
จากบทสนทนาที่หน่วยข่าวกรองดักฟังมาได้ ฟลินน์ ขอร้องให้ คิลส์ยัก ช่วยแจ้งรัฐบาลรัสเซียให้ชะลอการแก้แค้นสหรัฐฯ เอาไว้ก่อน หลังจากที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา สั่งคว่ำบาตรและขับไล่ทูตรัสเซีย 35 คนเพื่อตอบโต้กรณีมอสโกแทรกแซงเลือกตั้ง พร้อมทั้งกล่าวในทำนองว่า ทรัมป์ จะเข้ามายกเลิกคำสั่งคว่ำบาตรเหล่านั้น
ต่อมา ฟลินน์ ก็ถูกปลดจากตำแหน่งที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาวหลังทำงานได้เพียง 24 วัน เนื่องจากไปโกหกรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ เรื่องบทสนทนากับทูตรัสเซียด้วย