รอยเตอร์ - แกนนำวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เผย “มั่นใจยิ่งว่าเดิม” ว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงเกี่ยวข้องโดยตรงกับคดีฆาตกรรมนักข่าวคนดัง จามาล คาช็อกกี ภายหลังรับฟังการสรุปผลสอบสวนจากผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) เมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.)
“คุณต้องเป็นพวกจงใจตาบอด ถึงจะไม่เชื่อว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นแผนของกลุ่มคนซึ่งอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ MbS” ส.ว.ลินด์ซีย์ เกรแฮม ให้สัมภาษณ์หลังรับฟังการบรรยายสรุปจาก จีนา แฮสเพล ผู้อำนวยการหญิงของซีไอเอ พร้อมอ้างถึงอักษรย่อ MbS ซึ่งมาจากพระนามเต็มของมกุฎราชกุมารซาอุฯ
เกรแฮม ซึ่งช่วงหลังๆ ผันตัวมาเป็นหนึ่งในพันธมิตรฝีปากกล้าของ ทรัมป์ ระบุด้วยว่า คดีนี้อาจไม่มี “ควันจากปากกระบอกปืน” แต่น่าจะมี “ควันจากเลื่อย” ซึ่งพนักงานสอบสวนเชื่อว่าเป็นเครื่องมือที่คนร้ายใช้หั่นทำลายศพของ คาช็อกกี
ส.ว.ทั้งสายรีพับลิกันและเดโมแครตยืนยันตรงกันว่า พวกเขาต้องการผลักดันร่างกฎหมายซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ประณามการสังหาร คาช็อกกี แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังตกลงกันไม่ได้ว่าควรดำเนินการอย่างไร
สมาชิกพรรคเดโมแครตส่วนใหญ่ต้องการให้สภาคอสเกรสทำการโหวตว่าจะรับหรือไม่รับ (up or down vote) ร่างญัตติให้สหรัฐฯ ระงับการสนับสนุนทุกรูปแบบต่อกลุ่มพันธมิตรซาอุฯ ที่ทำสงครามในเยเมน
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และสมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนแย้งว่า วอชิงตันไม่ควรบุ่มบ่ามทำในสิ่งซึ่งอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ เนื่องจากซาอุฯ นั้นเป็นทั้งลูกค้าอาวุธรายใหญ่ และยังเป็นชาติพันธมิตรที่ช่วยสหรัฐฯ ต้านทานอิทธิพลของอิหร่านในตะวันออกกลาง
ส.ว. ริชาร์ด เชลบี จากพรรครีพับลิกัน ชี้ว่า “ต้องมีใครสักคนถูกลงโทษ... แต่คำถามก็คือ คุณจะแยกมกุฎราชกุมารและลูกน้องของพระองค์ออกจากประเทศซาอุดีอาระเบียได้อย่างไร”
สัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มส.ว. 14 คนจากพรรครีพับลิกันซึ่งครองเสียงข้างมากแบบฉิวเฉียดในวุฒิสภา และแทบไม่เคยขัดขืนคำสั่งประธานาธิบดีมาก่อน ได้ตัดสินใจแปรพักตร์ไปช่วยพรรคเดโมแครตโหวตหนุนมาตรการระงับความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ต่อฝ่ายซาอุฯ ในสงครามเยเมน
การโหวตดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศ ไมค์ พอมเพโอ และรัฐมนตรีกลาโหม เจมส์ แมตทิส ได้เข้าชี้แจงต่อวุฒิสภาเรื่อง คาช็อกกี ถูกฆาตกรรม และเตือนบรรดา ส.ว. ว่าอย่าทำอะไรที่จะบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับริยาด
สมาชิกรัฐสภาทั้ง 2 พรรคเรียกร้องให้ ทรัมป์ แถลงประณามคดีสังหารโหดนี้ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง และไม่พอใจที่ผู้นำสหรัฐฯ ออกตัวเข้าข้างมกุฎราชกุมารซาอุฯ มาโดยตลอด
“ถ้ามกุฎราชกุมารทรงยืนอยู่ต่อหน้าคณะลูกขุน พระองค์จะถูกตัดสินว่ามีความผิดภายใน 30 นาที” ส.ว.บ็อบ คอร์เกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการด้านความสัมพันธ์ต่างประเทศของวุฒิสภาระบุ และเมื่อนักข่าวถามย้ำว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ดจะทรงถูกพิพากษาว่าเป็นฆาตกรหรือไม่ คอร์เกอร์ ก็ตอบว่า “ใช่”