เอเจนซีส์ - กาตาร์ระบุในวันจันทร์ (3 ธ.ค.) ว่าจะออกจากโอเปกตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป เพื่อหันมาเน้นเรื่องก๊าซธรรมชาติของตนเอง
กาตาร์ หนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันรายเล็กของโอเปก แต่เป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติ (LNG) รายใหญ่ของโลก เพิ่งจะมีเรื่องขัดแย้งกับซาอุดีอาระเบียและชาติอาหรับรายอื่นในช่วงที่ผ่านมา
กาตาร์บอกว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง โดยทาง ซาอัด อัล-คาอาบี รัฐมนตรีพลังงานของกาตาร์ ระบุว่า กาตาร์ไม่ได้คิดจะออกจากธุรกิจน้ำมัน เพียงแต่ตอนนี้มันถูกควบคุมโดยองค์กรที่มีประเทศหนึ่งคอยบงการ แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อประเทศ แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นการพูดถึงซาอุดีอาระเบีย
รัฐมนตรีของกาตาร์ยังบอกอีกว่า ประเทศของเขาจะหันไปเน้นเรื่องก๊าซธรรมชาติ เพราะสำหรับกาตาร์แล้วไม่เกิดผลดีเท่าไหร่ที่จะทุ่มเทความพยายาม ทรัพยากรและเวลา ให้กับองค์กรที่กาตาร์เป็นเพียงผู้เล่นรายเล็ก
บรรดาผู้แทนของโอเปก ซึ่งมีทั้งหมด 15 ชาติเมื่อนับรวมกาตาร์ด้วย พากันมองว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยส่งผลกระทบเท่าไหร่ แต่ถึงกระนั้นการสูญเสียสมาชิกที่อยู่ด้วยกันมานานก็บั่นทอนภาพลักษณ์เรื่องความสามัคคี ก่อนถึงการประชุมที่คาดว่าจะให้มีการลดผลิตเพื่อดันราคาน้ำมัน
กาตาร์ ที่เป็นชาติสมาชิกของโอเปกมานาน 57 ปี มีกำลังผลิตน้ำมันได้ 600,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อนำไปเทียบกับซาอุดีอาระเบียที่ผลิตได้ 11 ล้านบาร์เรลต่อวัน
อย่างไรก็ตาม กาตาร์ถือเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่ทรงอิทธิพลในตลาดก๊าซธรรมชาติ LNG ของโลก โดยสามารถผลิตได้มากถึง 77 ล้านตันต่อปี
อัล-คาอาบี ยังบอกด้วยว่า บริษัท กาตาร์ ปิโตรเลียม จะเพิ่มความสามารถในการผลิตที่เทียบเท่าน้ำมัน 4.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ให้เป็น 6.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงทศวรรษหน้า และมีแผนจะสร้างอีเธนแคร็กเกอร์ขนาดใหญ่ในตะวันออกกลาง รวมถึงยังคงขยายการลงทุนด้านน้ำมันในต่างประเทศ