เอเอฟพี – ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง กล่าวในวันนี้ (27) ว่า ฝรั่งเศสจะปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 14 เครื่องจากทั้งหมด 58 เครื่องที่กำลังทำงานอยู่ในประเทศนี้ภายในปี 2035 โดยในช่วงก่อนปี 2030 จะมีการปิด 4-6 เครื่องก่อน
ทั้งหมดนี้รวมถึงการปิดเตาปฏิกรณ์เก่าที่สุดสองเครื่องของฝรั่งเศสที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ในเมืองเฟสเซนไฮม์ ทางตะวันออกของฝรั่งเศส ซึ่งมาครงกล่าวว่าเตรียมจะปิดในช่วงฤดูร้อนปี 2020
เขายังประกาศด้วยว่า ฝรั่งเศสจะปิดโรงงานไฟฟ้าถ่านหินที่ยังเหลืออยู่ 4 แห่งภายในปี 2022 ในฐานะส่วนหนึ่งของความพยายามต่อต้านมลพิษของประเทศนี้
ในคำปราศรัยเสนอนโยบายด้านพลังงานของประเทศนี้สำหรับปีต่อๆ ไป มาครง กล่าวว่า “การลดบทบาทของพลังงานนิวเคลียร์ไม่ได้หมายถึงการละทิ้งมัน”
ฝรั่งเศสพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์เกือบ 72 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการกระแสไฟฟ้าในประเทศ ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะต้องการลดตัวเลขนี้ให้เหลือ 50 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2030 หรือ 2035 ด้วยการพัฒนาแหล่งพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมก็ตาม
มาครง กล่าวว่า ฝรั่งเศสจะมุ่งเป้าเพิ่มการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมขึ้นเป็นสามเท่าภายในปี 2030 และเพิ่มการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์เป็น 5 เท่าในช่วงเวลาเดียวกัน
เขากล่าวเสริมว่า เขาจะขอให้บริษัทไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส EDF ศึกษาความเป็นไปได้ที่จะสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ EPR รุ่นใหม่เพิ่มเติม แต่จะรอจนถึงปี 2021 ค่อยตัดสินใจว่าจะดำเนินการก่อสร้างหรือไม่
บริษัท EDF สร้างเตาปฏิกรณ์ EPR เครื่องแรกที่ฟลาแมนวิลริมชายฝั่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส เดิมที่มันจะเริ่มก่อสร้างในปี 2012 แต่ติดปัญหาด้านเทคนิคและงบประมาณบานปลาย