รอยเตอร์ - ผู้บริหารคาสิโนเกนติ้งของมาเลเซียยื่นฟ้องศาลในนครลองแองเจลิสเมื่อวันจันทร์ (26 พ.ย.) เพื่อเรียกค่าเสียหายกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์จากบริษัท วอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney Co.) และ ทเวนตีเฟิสต์เซนจูรีฟ็อกซ์ (21st Century Fox Inc.) โทษฐานไม่ปฏิบัติตามสัญญาก่อสร้างสวนสนุกแห่งใหม่ใกล้ๆ กับกรุงกัวลาลัมเปอร์
เอกสารคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลส่วนกลางของสหรัฐฯ กล่าวหา ดิสนีย์ และ ฟ็อกซ์ ว่าละเมิดสัญญาที่ทำร่วมกับบริษัท เกนติ้ง มาเลเซีย เบอร์ฮัด (GENM) เมื่อปี 2013 ว่าด้วยข้อตกลงให้ลิขสิทธิ์แก่ธีมพาร์คแห่งใหม่ในการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาจากภาพยนตร์อนิเมชั่นของฟ็อกซ์ เช่น ‘Ice Age’ และ ‘Planet of the Apes’
GENM อ้างว่า ฟ็อกซ์ และ ดิสนีย์ พยายามถอนตัวออกจากโครงการเนื่องจากสวนสนุกที่จะสร้างนั้นอยู่ติดกับบ่อนคาสิโน ซึ่งอาจทำให้บริษัทเสื่อมเสียภาพลักษณ์ “เป็นมิตรต่อครอบครัว”
ล่าสุด ผู้แทนของดิสนีย์และฟ็อกซ์ยังไม่ออกมาตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นนี้
คำฟ้องของ GENM ระบุว่า บริษัทมีแผนที่จะสร้าง ‘ฟ็อกซ์เวิลด์’ ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ภายในรีสอร์ตสเวิลด์เกนติ้ง ซึ่งเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวบนเกนติ้งไฮแลนด์สที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 6,000 ฟุต ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์จากกัวลาลัมเปอร์เพียง 1 ชั่วโมง และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละกว่า 23 ล้านคน
ฟ็อกซ์ อ้างเรื่องความล่าช้าของโครงการเป็นเหตุในการขอยกเลิกสัญญา พร้อมทั้งส่งหนังสือแจ้งการผิดนัด (notice of default) ซึ่งกำหนดเส้นตายให้ GENM ต้องเปิดธีมพาร์คแห่งนี้ภายใน 30 วัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้
“สาเหตุเกิดจากความละอายใจของผู้ขายลิขสิทธิ์ เริ่มต้นจากฟ็อกซ์ และต่อมาก็คือดิสนีย์ที่กำลังทำสัญญาเทคโอเวอร์ฟ็อกซ์ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2019” เอกสารคำฟ้องระบุ
GENM ชี้ว่า บริษัทมีสิทธิ์เรียกคืนเงินที่ลงทุนกับธีมพาร์คแห่งนี้ไปแล้วกว่า 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงค่าเสียหายเชิงลงโทษ (punitive damages) อีกกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์
สวนสนุกแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ราว 25 เอเคอร์ และจะมีเครื่องเล่นต่างๆ มากกว่า 25 ชนิดที่ใช้ธีมจากภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ เช่น Ice Age, Life of Pi, Alien และ Night at the Museum
GENM มีแผนที่จะเปิดสวนสนุกแห่งนี้ตั้งแต่ปี 2016 แต่ก็ประสบปัญหาล่าช้าจนต้องเลื่อนกำหนดเปิดมาเป็นปี 2019