เอเจนซีส์ – แคนเบอร์ราปฎิเสธเข้าร่วมลงนามในข้อตกลงผู้อพยพของสหประชาชาติ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย สกอตต์ มอร์ริสสัน ประกาศวันนี้(21 พ.ย) อ้างหากตอบรับอาจบั่นทอนนโยบายความมั่นคงประเทศ “พรมแดนเข้มแข็ง” ในทางกฎหมายและการปฎิบัติได้
CNN สื่อสหรัฐรายงานวันนี้(21 พ.ย) การประกาศของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ออสเตรเลีย สกอตต์ มอร์ริสสัน เกิดขึ้นท่ามกลางประเทศทั่วโลกขานรับทีจะเข้าร่วมข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานที่ปลอดภัย เป็นระเบียบ และปกติ” (the Global Compact for Safe, Orderly and Regular Migration )ของทางสหประชาชาติในเดือนหน้า
ซึ่งทางยูเอ็นตัดสินใจเดินหน้าข้อตกลงการอพยพในปี 2016 หลังจากเกิดวิกฤตผู้อพยพจากตะวันออกกลางไหลเข้าทวีปยุโรปที่ได้เห็นมีผู้อพยพจำนวนมากต้องเสียชีวิตระหว่างการเดินทาง
ร่างข้อตกลงซึ่งไม่มีผลผูกพันเสร็จสิ้นลงในเดือนกรกฎาคม สื่อสหรัฐฯชี้ หลังจากที่ได้ใช้เวลามากกว่า 1 ปีในการร่าง
ในการแถลงปฎิเสธเข้าร่วมข้อตกลงผู้อพยพยูเอ็นอย่างเป็นทางการในวันนี้(21) นายกรับมนตรีออสเตรเลียชี้แจงว่า เขาเชื่อว่าข้อตกลง จากเนื้อหาที่มีในเวลานี้ ไม่ได้เป็นผลประโยชน์ของออสเตรเลีย และอีกทั้งยังไม่ส่งเสริมศักยภาพของออสเตรเลียในการควบคุมพรมแดนและจัดการโปรแกรมผู้อพยพอย่างประสบความสำเร็จ
“ข้อตกลงล้มเหลวในการระบุอย่างเหมาะสมถึงความแตกต่างระหว่างคนที่เดินทางเข้าออสเตรเลียอย่างผิดกฎหมาย และกลุ่มคนที่เข้าประเทศอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะในด้านการควบคุมทางด้านสวัสดิการสังคมและผลประโยชน์อื่นๆ” รายงานจากแถลงการณ์
และในแถลงการณ์ยังกล่าวต่อว่า “สิ่งนี้ยังไม่สอดคล้องกับการจัดการของโครงการการอพยพอย่างเข้มแข็งและเป็นระเบียบภายใต้รัฐบาลเนชันแนลลิเบอรัล
CNN ชี้ว่า ออสเตรเลียต้องตกที่นั่งลำบากหลังจากองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลกออกมารุมประณามถึงนโยบายความเข้มงวดในการเข้าเมือง และที่ผ่านมาถึงแม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาลมาแล้วหลายชุดแต่ทว่าแดนจิงโจ้ยังคงต้องการให้มีศูนย์คนเข้าเมืองนอกฝั่งต่อไปซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการจัดการคนเข้าเมืองแดนจิงโจ้
โดยในแถลงการณ์ มอร์ริสสันชี้ว่า การที่ยอมรับข้อตกลงผู้อพยพของสหประชาชาติจะเป็นการขัดแย้งโดยตรงกับหลักการสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของออสเตรเลีย
ทั้งนี้นอกจากออสเตรเลียพบว่าก่อนหน้ามีชาติอื่นๆจำนวนไม่มากนักในยุโรป รวมไปถึง ออสเตรีย และอีกทั้งสหรัฐฯและอิสราเอล ประกาศไม่เข้าร่วมข้อตกลงด้วยเหตุผลคล้ายคลึงกันนี้
ซึ่งสำหรับเทลอาวีฟ ในวันอังคาร(20) นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู แถลงอย่างเป็นทางการปฎิเสธการเข้าร่วม