เอเอฟพี - สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบียทรงประกาศจุดยืนหนุนหลังเจ้าชายโมฮัมเหม็ด พระราชโอรสและมกุฎราชกุมาร พร้อมตรัสชมการทำงานของอัยการซาอุฯ เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ทรงแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณชนหลังเกิดคดีสังหารนักข่าวที่ทำให้ซาอุฯ ต้องเผชิญวิกฤตการเมืองครั้งใหญ่หลวง
สัปดาห์ที่แล้ว อัยการซาอุฯ เรียกร้องให้ลงโทษประหารชีวิตชาย 5 คนที่ร่วมกันสังหาร จามาล คาช็อกกี รวมถึงตั้งข้อหาผู้เกี่ยวข้อง 11 คน และยืนยันว่ามีพลเมืองทั้งหมด 21 คนถูกจับฐานมีส่วนพัวพันกับคดีนี้
อย่างไรก็ตาม อัยการสรุปยืนยันว่าการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นภายในสถานกงสุลซาอุฯ ที่นครอิสตันบูลเมื่อวันที่ 2 ต.ค. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารวัย 33 พรรษา แม้สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) จะเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นผู้บงการก็ตาม
สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน พระชนมายุ 82 พรรษา ได้มีพระราชดำรัสประจำปีต่อสภาที่ปรึกษา (Shura Council) โดยเนื้อความตอนหนึ่งระบุว่า “ราชอาณาจักรแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นบนหลักความยุติธรรมและความเท่าเทียมในอิสลาม และเราภาคภูมิใจในความทุ่มเทของฝ่ายตุลาการและอัยการ”
“เราขอยืนยันว่า ประเทศแห่งนี้จะไม่มีวันหันเหไปจากกฎหมายที่พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดขึ้น และไม่มีการเลือกปฏิบัติ” กษัตริย์ซาอุฯ ตรัส โดยไม่ได้พาดพิงถึงการเสียชีวิตของคอลัมนิสต์วอชิงตันโพสต์ตรงๆ
ภายใต้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มีเพียงสมเด็จพระราชาธิบดีเท่านั้นที่ทรงมีสิทธิ์ถอดถอนองค์มกุฎราชกุมาร ซึ่งเวลานี้กำลังถูกกล่าวโทษว่าเป็นผู้สั่งฆ่าคาช็อกกี แม้เจ้าชายโมฮัมเหม็ดเองจะตรัสย้ำหลายครั้งว่าไม่ทรงมีเจตนาเช่นนั้นเลยก็ตาม
สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานยังตรัสชมเชยแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของเจ้าชายโมฮัมเหม็ดที่เน้นสร้างงานให้กับประชากรหนุ่มสาว และเตรียมประเทศให้พร้อมสำหรับยุคที่น้ำมันหมดไป
สถานีโทรทัศน์อัล-อราบิยาของซาอุฯ รายงานว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ดจะเสด็จฯ ไปทรงร่วมการประชุมซัมมิต G20 ที่อาร์เจนตินาในวันที่ 30 พ.ย. ซึ่งถือเป็นทริปต่างประเทศหนแรกของพระองค์หลังเกิดคดีคาช็อกกี และยังเป็นโอกาสที่เจ้าชายจะทรงแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อหน้าผู้นำต่างชาติทั้งตุรกี สหรัฐฯ และกลุุ่มประเทศยุโรป
“มกุฎราชกุมารทรงส่งสารที่ชัดเจนไปยังประชาคมโลกว่า ไม่ว่าพวกเขาจะพูดหรือทำอะไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องคาช็อกกี แต่มันจะไม่กระทบต่อการตัดสินใจภายในซาอุฯ” คริสเตียน อุลริคเซน ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเบเกอร์ มหาวิทยาลัยไรซ์ในสหรัฐอเมริกา ให้ความเห็น “ทรงท้าทายให้นักวิจารณ์ต่างชาติเปลี่ยนจากคำพูดเป็นการกระทำ และทรงมั่นใจว่าพวกเขาไม่กล้าทำ”
สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรพลเมืองซาอุฯ 17 คน รวมถึงคนสนิทของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด และเตรียมที่จะแถลงรายงานสรุปคดีสังหาร คาช็อกกี ภายในสัปดาห์นี้
ล่าสุด รัฐบาลเยอรมนีได้สั่งห้ามชาวซาอุฯ 18 คนเดินทางเข้าประเทศเมื่อวานนี้ (19) รวมถึงกลุ่มประเทศเชงเก้นในสหภาพยุโรปด้วย