รอยเตอร์/บีบีซี - เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ในวันศุกร์(16พ.ย.) แต่งตั้ง สตีเฟน บาร์เคลย์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งโหวตแยกตัวจากสหภาพยุโรปในประชามติปี 2016 เป็นรัฐมนตรีเบร็กซิตคนใหม่
ตัวของเมย์เองจะลงมือกำกับดูแลด้วยตนเองในช่วง 10 วันสุดท้ายของการเจรจากับอียู เกี่ยวกับกรอบความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างสองฝ่าย ส่วน บาร์เคลย์ จะมุ่งเน้นไปที่การเตรียมพร้อมภายในประเทศสำหรับเบร็กซิตและนำพาร่างข้อตกลงถอนตัวของเมย์ผ่านความเห็นชอบผ่านรัฐสภาไปให้ได้
"เขาจะทำหน้าที่บทบาทภายใน" โฆษกของเมย์ระบุ ทั้งนี้ บาร์เคลย์ ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาทำหน้าที่แทน โดมิริค ราบ ที่ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีเบร็กซิตเมื่อวันพฤหัสบดี(15พ.ย.) เพื่อประท้วงร่างแผนออกจากอียูที่เมย์ผลักดัน
ส่วนตำแหน่งอื่นๆนั้น แอมเบอร์ รัดด์ อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงงานและบำนาญ แทน เอสเธอร์ แม็กเวย์ ที่ลาออกประท้วงร่างข้อตกลงเบร็กซิตเช่นกัน
บาร์เคลย์ อดีตนายธนาคารวัย 46 ปี เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังมาก่อน
ทั้งนี้เขามีคุณวุติด้านนิติกร ก่อนเข้ามาทำงานด้านกฎระเบียบการเงินและตามด้วยงานด้านป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน โดยเขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการกิจกรรมกฎระเบียบของบาร์เคลย์สแบงค์ ตามด้วยหัวหน้าฝ่ายป้องกันการฟอกเงินของธนาคาร
เมื่อวันพุธ (14) เมย์เพิ่งโน้มน้าวให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติร่างข้อตกลงเบร็กซิตระหว่างการประชุมนาน 5 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยบรรเทาความกังวลของภาคธุรกิจเกี่ยวกับการถอนตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) อย่างไร้ระบบระเบียบ หลังร่างข้อตกลงดังกล่าวผ่านการลงนามจากคณะผู้แทนเจรจาจากทั้งอังกฤษและอียูแล้ว
ขั้นตอนต่อไปคือ การนำร่างข้อตกลงเข้าสู่การพิจารณาของสภาสามัญ ที่ต้องให้การรับรองก่อนถึงกำหนดที่อังกฤษจะพ้นจากการเป็นสมาชิกอียูในวันที่ 29 มีนาคมปีหน้า
อย่างไรก็ตามความคืบหน้าดังกล่าวนำมาซึ่งปฏิกิริยาตอบโต้อย่างดุเดือดจากเหล่าสมาชิกสภาอังกฤษที่เคยสนับสนุนเบร็กซิตบางส่วน ในนั้นรวมถึง ราบ และ แม็กเวย์ โดย ราบ เชื่อว่าข้อเสนอสำหรับไอร์แลนด์เหนือในร่างข้อตกลงที่เมย์คุยไว้กับอียูนั้น เป็นภัยคุกคามอย่างยิ่งต่อความเป็นเอกภาพของสหราชอาณาจักร
ข้อเสนอดังกล่าวคือที่จะให้การสัญจรข้ามพรมแดนระหว่างไอร์แลนด์ซึ่งเป็นชาติสมาชิกอียู กับไอร์แลนด์เหนือที่เป็นแคว้นหนึ่งของสหราชอาณาจักร ยังคงเป็นไปอย่างเสรีต่อไป ถ้าภายหลังระยะเปลี่ยนผ่าน 21 เดือนแล้ว อียูกับสหราชอาณาจักรยังคงทำข้อตกลงการค้าเสรีกันไม่สำเร็จ โดยที่หากจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสองฝ่ายจะต้องตัดสินร่วมกันว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป
กลุ่มผู้สนับสนุนเบร็กซิตที่มีจุดยืนแข็งกร้าวมองว่า พวกเขาถูกทรยศ เนื่องจากข้อตกลงของเมย์ชูวิสัยทัศน์ในการรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอียูในอนาคต
ทว่า เมย์ยืนกรานว่า ข้อตกลงของตนจะทำให้อำนาจควบคุมการเงิน กฎหมาย และพรมแดนกลับคืนอยู่ในมือของอังกฤษ และยุติการโยกย้าย (ของคน) อย่างเสรี ปกป้องงาน ความมั่นคง และความเป็นเอกภาพของสหราชอาณาจักร
อย่างไรก็ดี เมย์ยอมรับว่า ยังต้องฝ่าฟันอีกมากเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากสภา
ขณะเดียวกันพวกสมาชิกสภาหัวอนุรักษ์นิยมราว 20 คนได้เรียกร้องอย่างเปิดเผยขอให้เปิดประชุมลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม เมย์ ตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ โดยบอกว่าเธอจะอยู่ที่บ้านหมายเลข 10 ต่อไป และจะดูแลข้อตกลงนี้จนผ่านความเห็นชอบ