xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’ พอใจผลเลือกตั้งกลางเทอม คุยผลงานตัวเองทำรีพับลิกันยังรักษาวุฒิสภาไว้ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

<i>ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ พูดในการประชุมแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว เมื่อวันพุธ (7 พ.ย.) </i>
เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความพออกพอใจในวันพุธ (7 พ.ย.) ที่พรรครีพับลิกันประสบชัยชนะสามารถรักษาวุฒิสภาเอาไว้ได้ ถึงแม้จะพ่ายแพ้ยับสูญเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมกันนั้นเขาให้สัญญาว่าหลังเลือกตั้งแล้วจะมียุคสมัยแห่ง “ความรัก” ในวอชิงตัน โดยเขาสามารถทำงานร่วมกับเดโมแครต แต่กระนั้นประมุขทำเนียบขาวก็ไม่วายข่มขู่ว่าถ้าฝ่ายค้านจะตรวจสอบเขา ก็จะต้องถูกเล่นงานกลับ

หนึ่งวันหลังการเลือกตั้งกลางเทอมในวันอังคาร (6) ซึ่งรีพับลิกันสูญเสียเสียงข้างมากในสภาล่างเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ขณะที่ได้ที่นั่งสุทธิเพิ่มขึ้นในสภาสูง ทรัมป์แถลงข่าวที่ทำเนียบขาวโดยข้อความหลักที่มุ่งส่งออกมาคือ ความสามัคคี “การเลือกตั้งจบลงแล้ว ทุกๆ คนต้องรักกัน” เขากล่าว

ทรัมป์ตีความผลเลือกตั้งที่ออกมาเช่นนี้ว่าเป็นชัยชนะ โดยเฉพาะสำหรับตัวเขาเอง ด้วยการกล่าวว่าการที่เขาเข้าไปยุ่งเกี่ยวช่วยเหลือการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งกลางเทอมด้วยตนเอง ได้ช่วยรักษาผู้สมัครของรีพับลิกันจำนวนมากให้รอดพ้นจากความปราชัย ส่วนพวกที่ “ไม่ต้องการได้รับการสวมกอด” จากเขานั้น ต้องพ่ายแพ้ไปเป็นแถว

เวลาเดียวกัน เขาแสดงความกระตือรือร้นที่จะสร้างภาพลักษณ์ตัวเองซึ่งมีความนุ่มนวลมากขึ้น หลังจากถูกกล่าวหาอย่างกว้างขวางว่ากำลังไปไกลจนเกินเลยมากแล้วในเรื่องการโจมตีพวกปรปักษ์ทางการเมืองว่าเป็น “ปีศาจร้าย” และวาดภาพพวกผู้อพยพผิดกฎหมายว่ากำลัง “รุกราน” ทั้งที่ไม่เคยมีหลักฐานสนับสนุนเลย

ทรัมป์กล่าวว่า เขาปรารถนาที่จะมี “น้ำเสียงที่สม่ำเสมอมากๆ, บันยะบันยัง, และน่าเบื่อ”

เขาทำนายอีกว่า การที่รีพับลิกันสูญเสียสภาล่างให้แก่เดโมแครตนั้น แท้ที่จริงจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกันในวอชิงตัน แทนที่จะก่อให้เกิดการสะดุดติดขัดอย่างสิ้นเชิง

“ผมมีความปรารถนาที่จะเห็นความสามัคคี, สันติภาพ, ความรัก, และคำอื่นๆ อะไรก็ตามทีที่คุณต้องการเอามาใช้” เขากล่าว “ผมนั้นคิดอย่างชัดเจนว่าเราจำเป็นต้อง ... รอไปจนกว่ามิดเทอมจะผ่านพ้นไป ซึ่งตอนนี้มันก็ผ่านพ้นไปแล้ว”

“จริงๆ แล้วมันสามารถที่จะเกิดสถานการณ์ที่มีการแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายแต่มีความสวยงามขึ้นมาได้นะ”

เสนอสันติภาพพร้อมกับคำข่มขู่

ทรัมป์แสดงท่าทีต้องการสันติภาพกับพรรคเดโมแครต ซึ่งเขาเพิ่งใช้เวลาในสัปดาห์ที่แล้วโจมตีว่าร้ายอย่างดุเดือด หลังจากที่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น แนนซี เปโลซี ส.ส.อาวุโสของเดโมแครตซึ่งน่าที่จะได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรกลับคืนไปอีกสมัยหนึ่ง ก็แสดงความปรารถนาที่จะร่วมมือกับรีพับลิกัน

“สภาล่างในมือของเดโมแครต จะทำงานเพื่อการแก้ไขปัญหา ซึ่งจะนำพวกเราเข้ามาหากัน เพราะพวกเราต่างก็ได้เจอกับการแตกแยกกันจนเพียงพอแล้ว” เปโลซี บอก

ทรัมป์นั้นหยิบยกเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ และเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ว่าเป็นพื้นที่ซึ่งทั้งสองพรรคสามารถทำงานร่วมกันได้

แต่ถ้าประมุขทำเนียบขาวผู้นี้ถือช่อมะกอกแห่งสันติภาพเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างหนึ่งของเขาก็กำลังถือไม้กระบองเอาไว้ด้วย

มีเสียงพูดกันหนาหูขึ้นเรื่อยๆ ว่า หนึ่งในความเคลื่อนไหวแรกๆ ของพรรคเดโมแครตภายหลังมีอำนาจควบคุมสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่เริ่มต้นปี 2019 เป็นต้นไป ก็คือ จะพยายามบีบบังคับให้มีการเปิดเผยข้อมูลการขอยกเว้นภาษีเงินได้ของทรัมป์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาปฏิเสธไม่ยอมบอกต่อสาธารณชนมาโดยตลอด และก่อให้เกิดการโต้แย้งกันอย่างมากมาย

คณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ของสภาล่าง ซึ่งต่อจากนี้ไปผู้เป็นประธานจะเป็น ส.ส.เดโมแครตนั้น ก็อาจใช้ความพยายามในการเร่งรัดและเจาะลึกข้อกล่าวหาที่ยังคลุมเครืออยู่ ในเรื่องการสมคบกันระหว่างทีมรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของทรัมป์เมื่อปี 2016 กับรัสเซีย

ทรัมป์แสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า หากคณะกรรมาธิการสภาล่างในกำมือของเดโมแครตพยายามที่จะผลักดันการไต่สวนต่างๆ ของตนเองแล้ว สันติภาพและความรักก็จะเป็นอันหดหายจืดจางไป

“พวกเขาต้องการเล่นเกมนี้กันก็ได้” เขากล่าว “ทั้งหมดที่พวกเขาจะต้องทำก็คือปิดท้ายด้วยการทำให้มันกลับไปกลับมา แล้วก็กลับไปกลับมา

“ผมคิดว่าผมน่ะเล่นเก่งกว่านะในเกมอย่างนี้ เก่งกว่าที่พวกเขาเล่นกันได้จริงๆ” เขาบอก
<i>ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชี้นิ้วไปที่ จิม อคอสตา แห่งโทรทัศน์ซีเอ็นเอน ระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธ (7พ.ย.) </i>
เล่นงานสื่อมวลชนอีก

เหมือนกับว่ายังต้องมีสัญญาณเครื่องเตือนใจใดๆ กันอีกเพื่อให้ระลึกเอาไว้ว่า ทรัมป์นั้นโดยทั่วไปแล้วเป็นคนที่พร้อมสู้รบปรบมือกับคนอื่นมากกว่าเป็นคนที่น่ารัก ในการแถลงข่าวครั้งนี้ เขาจึงได้แสดงการตอบโต้อย่างโกรธกริ้วหลายต่อหลายครั้งกับพวกผู้สื่อข่าว

ตามความเห็นของทรัมป์แล้ว “การที่สื่อเสนอข่าวด้วยท่าทีเป็นศัตรูอย่างยิ่ง” นั่นแหละคือปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำ และเขาก็ระเบิดอารมณ์ขึ้นมา เมื่อ จิม อคอสตา นักข่าวประจำทำเนียบขาวของโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ถามว่าเขากำลังพยายามทำให้พวกผู้อพยพ “กลายเป็นปีศาจร้าย” ขึ้นมาใช่หรือไม่ในระหว่างไปปราศรัยช่วยลูกพรรคหาเสียงสู้ศึกเลือกตั้งกลางเทอม รวมทั้งคำถามที่ว่าเขากังวลหรือไม่เกี่ยวกับการสอบสวนเรื่องรัสเซีย

“คุณเป็นคนหยาบคายและแย่มาก” เขากล่าวตอบอคอสตาต่อหน้าสื่อจำนวนมากจากทั่วโลก

“คุณไม่ควรที่จะทำงานให้ซีเอ็นเอ็นเลย” เขาบอก “เมื่อคุณรายงานข่าวปลอมๆ ซึ่งซีเอ็นเอ็นทำเช่นนั้นเยอะมากๆ คุณก็กลายเป็นศัตรูของประชาชน”

สิ่งที่ทำให้ทรัมป์มีความสุขมากขึ้นอย่างชัดเจนก็คือ ทัศนะที่มองโลกสดใสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของเขา เกี่ยวกับโอกาสที่เขาจะได้รับเลือกตั้งอีกสมัยในปี 2020

ทั้งนี้ผู้สมัครรีพับลิกันที่ทรัมป์หนุนหลัง สามารถเอาชนะพวกวุฒิสมาชิกของเดโมแครตในรัฐจำนวนมากซึ่งทรัมป์เคยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016 เป็นต้นว่า ฟลอริดา, อินดีแอนา, มิสซูรี, และนอร์ทดาโกตา ทรัมป์มองอิทธิพลของเขาที่มีต่อผลงานของรีพับลิกันในการเลือกตั้งวันอังคาร (6) ว่าเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นว่า แบรนด์ของเขานั้นแข็งแกร่งเหมือนหินผา

การเลือกตั้งคราวนี้เดโมแครตได้ตำแหน่งผู้ว่าการรัฐเพิ่มขึ้นมา 7 รัฐ แต่ยังไม่อาจคว้าชัยชนะในการแข่งขันที่กลายเป็นข่าวเกรียวกราวที่รัฐฟลอริดาได้ โดยที่ทรัมป์ก็ตั้งข้อสังเกตเอาไว้เมื่อวันพุธ (7) ว่า รัฐนี้แหละน่าจะแสดงบทบาทสำคัญในการเลือกตั้งปี 2020

“เราได้เห็นพวกผู้สมัครที่ผมสนับสนุน ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลเมื่อคืนนี้” ทรัมป์อวดโอ่


กำลังโหลดความคิดเห็น