xs
xsm
sm
md
lg

In Pics&Clips: เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ! “อเล็กแซนเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เทซ“ บาร์เทนเดอร์จากบร็องซ์ กลายเป็นสส.หญิงอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์อเมริกา

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซีส์/เอพี/MGRออนไลน์ – ผลการเลือกตั้งที่ออกมาล่าสุดพบว่ามีสส.หน้าใหม่ตบเท้าเข้าสภาล่างวหรัฐฯเป็นสมัยแรกอย่างคึกคัก อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เทซ ดาวรุ่งพรรคเดโมแครตสายโซเชียลลิสต์ อาชีพบาร์เทเดอร์ ที่มีผู้จัดการเลือกตั้งหญิงชาวบังกลาเทสอพยพเข้าอเมริกาพร้อมครอบครัวตั้งแต่ 2ขวบชนะการเลือกตั้งในการลงสมัครแค่ครั้งแรก

หนังสือพิมพ์เดอะก์เดียน สื่ออังกฤษรายงานล่าสุดวันนี้(7 พ.ย) ถึงผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯที่น่าตื่นเต้น พบว่ามีการทำลายสถิติเป็นจำนวนมากในประวัติศาสตร์ เป็นต้นว่า มีสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯหน้าใหม่ชนะเข้ามาเป็นสมัยแรกสำเร็จสร้างความแตกต่างในแง่เชื้อชาติ ทางสังคม เพศ ซึ่งรวมไปถึงการเลือกตั้งในระดับผู้ว่าการรัฐ โดยเฉพาะมีผู้หญิงเข้าสู่การเมืองสหรัฐฯเป็นจำนวนมากในการเลือกตั้งรอบนี้

โดย CNN สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวันที่ 8 ส.ค ที่ผ่านมาพบว่า มีการทำลายสถิติในเลือกตั้งไพรมารีระดับพรรคโดยมีผู้หญิงชนะการเลือกตั้งกลางเทอมรอบแรกมาได้ถึง 182 คนในส่วนของผู้สมัครสภาล่างสหรัฐฯ และอีก 11 คนในสวนของผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐ

สื่ออังกฤษชี้ว่า การเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่เห็นผู้สมัครเพศหญิงกระโจนเข้าสู่สนามเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงตัวแทนที่มีเชื้อสายชนเผ่าอินเดียแดง ชาวมุสลิมซึ่งมีลูกหลานผู้อพยพจากปาเลสไตน์ชนะการเลือกตั้งรวมไปถึงผู้สมัครที่มีเชื้อสายชาวโซมาเลีย ชาวลาตินอเมริกัน ผู้อพยพ กลุ่มคนรุ่นใหม่ยุคมิลเลนเนียล และผู้สมัครกลุ่มเพศทางเลือก LGBT ทีมีสส.ชายที่เปิดตัวเป็นเกย์สามารถเอาชนะได้ในคืนวันอังคาร(6)

และคืนแห่งชัยชนะตกเป็นของ อเล็กแซนเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เทซ (Alexandria Ocasio-Cortez) วัย 29 ปี ผู้สมัครที่มีอาชีพเป็นบาร์เทนเดอร์ ดีกรีเกียรตินิยมอันดับ 3 ระดับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์-ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยบอสตันที่โด่งดัง และทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับอเมริกาในประเทศที่มีนักศึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ดีกรีระดับเกียรตินิยมและเคยได้รับรางวัลที่ 2 จากค่ายวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมนานาชาติของบริษัทชิปอินเทลในสมัยไฮสกูลจึงต้องทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์หลังสำเร็จการศึกษาในปี 2011

โอคาซิโอ-คอร์เทซมีมารดาเป็นอเมริกันที่เกิดในดินแดนปอร์โตริโกและบิดามาจากย่านบร็องซ์เขตยากจนของนิวยอร์ก ซึ่งเธอเคยกล่าวว่ารหัสไปรษณีย์ที่เธออาศัยบอกให้คนอื่นๆได้รับรู้ว่าอนาคตของเธอจะไปได้แค่ไหน

แต่ในการเลือกตั้งกลางเทอมนี้ โอคาซิโอ-คอร์เทซในฐานะที่เป็นตัวแทนชาวลาตินอเมริกันและอเมริกันชนชั้นรากหญ้าสามารถเอาชนะ ไปได้ด้วยคะแนน 78% ต่อผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน แอนโธนีย์ แพปพาซ(Anthony Pappas)ที่ได้ไปแค่ 13.8% อ้างอิงตัวเลขจากเอพี หลังการนับไปแล้ว 98% และกลายเป็นสสหญิงจากเขตที่ 14 ของนิวยอร์กที่มีอายุน้อยที่สุดในสภาคองเกรสเวลานี้

เดอะการ์เดียนชี้ว่า โฆษณาหาเสียงของโอคาซิโอ-คอร์เทซขึ้นต้นประโยคที่ว่า “ผู้หญิงอย่างดิฉันไม่สมควรที่จะลงรับสมัครเลือกตั้ง” แต่การทำงานแวดวงการเมืองเกิดขึ้นอย่างจริงจังเกิดขึ้นเมื่อเธอมีโอกาสเข้าไปร่วมทำงานให้กับทีมหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯของพรรคเดโมแครต สว.เบอร์นีย์ แซนเดอร์ส ปี 2016 ก่อนหน้าที่เคยชิมลางได้เข้าทำงานเป็นนักศึกษาฝึกงานประจำสำนักงานคนเข้าเมืองสหรัฐฯของอดีตสว.รัฐแมสซาชูเซตส์ เท็ด เคนเนดี(Ted Kennedy)

ทั้งนี้ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แซนเดอร์ส ได้เคยประกาศตัวชูนโยบายโซเชียล-เดโมแครต หาเสียงต้านทุนใหญ่จากวอลสตรีท ฟรีการศึกษาและอเมริกันชนทุกคนต้องได้รับการรับรักษาฟรีเมื่อเจ็บป่วยเหมือนเช่นในยุโรป

ซึ่งในเวลานั้นในรอบไพรมารีปี 2016 สว.แซนเดอร์สถูกอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามาตั้งคำถามว่า นโยบายเหลานั้นที่ให้ประชาชนได้สิทธิการศึกษาฟรีและการรักษาโรคโดยที่ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่รัฐบาลกลางสหรัฐฯจะหางบตัวเลขจากที่ไหนมาอุดหนุน

อย่างไรก็ตาม โอคาซิโอ-คอร์เทซ เดินตามรอยสว.แซนเดอร์สผู้นำปีกลิเบอรัลในพรรคเดโมแครต ที่ได้ออกมาประกาศทิ้งท้ายให้ทุกคนที่สนับสนุนตัวเขาเดินเข้าสู่สนามเลือกตั้งทั้งระดับท้องถิ่น และระดับชาติ และเธอทำได้สำเร็จในคืนวันอังคาร(6) หลังก่อนหน้าในรอบไพรมารีทำให้คนทั่วประเทศต้องตื่นตะลึงด้วยการเอาชนะ โจ คราวลีย์ (Joe Crowley) สส.เขต 10 สมัยของพรรคเดโมแครต และเป็นตัวเก็งที่จะมาทำหน้าที่แทนแนนซีย์ เพโลซี (Nancy Pelosi) ผู้นำเสียงข้างน้อยของพรรคเดโมแครตในสมัยที่กำลังจะสิ้นสุด

พบว่านโยบายสำคัญของเธอคือ การล้มสำนักงานการเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ ICE ที่ผู้นำสหรัฐฯ ประธานาธิบดีทรัมป์ใช้เป็นเครื่องมือตามไล่ล่าผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายตามที่ต่างๆในเอเมริกาตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปี 2017 นอกจากนี้ โอคาซิโอ-คอร์เทซ ยังดำเนินนโยบายประกันสุขภาพที่รัฐจ่ายผู้เดียว (Single-payer healthcare plan ) โดยเมื่อก่อนการเลือกตั้งกลางเทอม ทรัมป์และพรรครีพับลิกันออกมาชี้ว่า จะไม่ให้ผู้ป่วยที่มีโรคดั้งเดิม(Pre-existing conditions)ได้รับการคุ้มครองจากประกันสุขภาพ ส่งผลทำให้ผู้ป่วยต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลสูงมาก

และนโยบายที่สำคัญอีกประการของผู้สมัครหญิงรายนี้คือ การให้อเมริกันชนสามารถเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยที่ในอเมริกาเรียกว่า วิทยาลัยหลักสูตร 4 ปี โดยไม่ต้องเสียค่าเรียน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในอเมริกาที่ทุกคนต้องเป็นหนี้สินจากเงินกู้การศึกษาที่ต้องใช้เวลาหลายสิบปีจึงจะสามารถจ่ายได้หมด ตัวอย่างเช่น สว.มาร์โก รูบิโอ จากรัฐฟลอริดาใช้เงินที่ได้จากลิขสิทธ์การตีพิมพ์หนังสืออัตชีวประวัติตัวเองที่เป็นลูกผู้อพยพจากคิวบา “ลูกชายชาวอเมริกัน” (An American Son) จ่ายหนี้เงินกู้การศึกษาได้หมดในคราวเดียว

สำหรับโอคาซิโอ-คอร์เทซ ชัยชนะของเธอไม่ใช่แค่สำหรับตัวเธอ แต่รวมไปถึงคนในยุคมิลเลนเนียลให้ก้าวเข้ามาสู่แวดวงการเมือง โดยในทวิตเตอร์ของเธอได้กล่าวไปถึงผู้จัดการหาเสียงเลือกตั้งที่เป็นผู้อพยพชาวบังกลาเทศ เดินทางเข้าสหรัฐฯมาพร้อมกับครอบครัวตั้งแต่อายุแค่ 2 ขวบ "โนรีน อัคฮ์เตอร์" (Naureen Akhter)หญิงอเมริกันมุสลิมคนรุ่นใหม่และยังเป็นผู้ตั้งกลุ่มมุสลิมเพื่อการเมืองก้าวหน้า(Muslims For Progress)

ซึ่งในรายงานของสื่อมีเดียมพบว่า ก่อนที่ผู้จัดการชาวมุสลิมอเมริกันรายนี้จะมาทำหน้าให้กับโอคาซิโอ-คอร์เทซ พบว่าเธอนั้นรับทำหน้าที่ดูแลลูกๆและมีบล็อกเกี่ยวกับอาหารของตัวเอง

ทั้งนี้การทำหน้าที่เป็นผู้จัดการหาเสียง อัคฮ์เตอร์กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า เธอต้องคอยโทรศัพท์ จัดการอีเวนต์หาเสียงต่างๆ รวมไปถึงพบกับผู้นำชุมชนและสมาชิกต่างๆ











โนรีน อัคฮ์เตอร์ (Naureen Akhter) ผู้จัดการหาเสียงให้อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เทซ



กำลังโหลดความคิดเห็น