บุตรชาย ‘คาช็อกกี’ เรียกร้องขอศพพ่อคืน เพื่อนำไปประกอบพิธีฝังในซาอุฯ

รอยเตอร์ - บุตรชายทั้งสองของ จามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุดีอาระเบียที่ถูกสังหาร เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งส่งศพบิดาคืนให้แก่ครอบครัว เพื่อนำไปประกอบพิธีฝังตามหลักศาสนาในซาอุฯ

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นเมื่อวานนี้ (4 พ.ย.) ซาลาห์ และ อับดุลเลาะห์ คาช็อกกี ยอมรับว่า เมื่อไม่มีศพของบิดา ครอบครัวก็ไม่สามารถแสดงความอาลัยหรือรับมือกับความเศร้าโศกที่เกิดขึ้นจากการเสียชีวิตของเขา

“มันไม่ใช่สถานการณ์ปกติและไม่ใช่การตายแบบปกติ สิ่งที่เราต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือนำศพของท่านไปฝังที่สุสานอัล-บะกีอ์ในนครมะดีนะห์ รวมกับสมาชิกในครอบครัว” ซาลาห์ ระบุ

“ผมได้คุยกับรัฐบาลซาอุฯ แล้ว และหวังว่ามันคงจะเกิดขึ้นได้เร็วๆ นี้”

จามาล คาช็อกกี ทำงานเป็นคอลัมนิสต์ให้กับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ และมักจะเขียนบทความโจมตีรัฐบาลซาอุฯ โดยเฉพาะตัวเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารผู้ทรงอิทธิพล

เขาถูกสังหารหลังจากเดินทางเข้าไปที่สถานกงสุลซาอุฯ ในนครอิสตันบูลเมื่อวันที่ 2 ต.ค.

ทางการริยาดยอมรับว่าแผนฆาตกรรม คาช็อกกี ถูกเตรียมการมาล่วงหน้า ไม่ใช่อุบัติเหตุจากการทะเลาะวิวาทอย่างที่แถลงในช่วงแรกๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตุรกีและสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ บางคนถึงกับฟังธงว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ดทรงเป็นผู้บงการ ซึ่งซาอุฯ ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง

รัฐบาลซาอุฯ ได้เปิดการสอบสวนคดีนี้อย่างจริงจัง ทว่าจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการเปิดเผยว่าศพของ คาช็อกกี ถูกนำไปทิ้งที่ไหน

เจ้าชายอัลวาลีด บิน ทาลาล เชื้อพระวงศ์ซาอุฯ ซึ่งร่ำรวยจากการทำธุรกิจข้ามชาติ ระบุวานนี้ (4) ว่ากระบวนการสอบสวนจะทำให้ผู้นำซาอุฯ พ้นข้อกล่าวหาในที่สุด

ซาลาห์ คาช็อกกี ได้ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นเป็นเจ้าแรก หลังจากที่เขาและสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ เจ้าชายโมฮัมเหม็ดและสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุฯ เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา

ซาลาห์ ระบุว่า สมเด็จพระราชาธิบดีทรงให้คำมั่นว่า ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ จามาล คาช็อกกี จะถูกนำตัวมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม

“เราแค่ต้องการให้ท่านจากไปอย่างสงบจริงๆ... จนถึงวันนี้ผมก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าพ่อตายแล้ว ความรู้สึกของผมมันยังรับไม่ได้” เขากล่าว พร้อมชี้ว่ามีการเสนอข้อมูลบิดเบือนหลายอย่างเกี่ยวกับการตายของบิดา

ซาลาห์ ยังปฏิเสธข้อครหาที่ว่า คาช็อกกี เป็นผู้สนับสนุนกลุ่มภราดรภาพมุสลิม (Muslim Brotherhood) ซึ่งถูกรัฐบาลซาอุฯ ขึ้นบัญชีเป็นองค์กรก่อการร้าย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คาช็อกกี ควรได้รับการจดจำอย่างไรบ้าง ซาลาห์ ตอบว่า “เขาเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งที่มีค่านิยมเหมือนกับคนทั่วไป เขารักประเทศของเขา และเชื่อมั่นในศักยภาพของซาอุฯ”

“พ่อไม่เคยตั้งตนเป็นศัตรูกับรัฐบาล เขาเชื่อว่าสถาบันพระมหากษัตริย์คือสิ่งที่ทำให้ชาติเป็นปึกแผ่นอยู่ได้ และเขาก็เชื่อมั่นในกระบวนการปฏิรูปที่กำลังเกิดขึ้นด้วย”