เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – ล่าสุด อาเซีย บิบี(Asia Bibi) ผู้ต้องหาคดีหมิ่นศาสนาอิสลามในปากีสถานยังคงอยู่ในเรือนจำต่อไปถึงแม้ศาลสูงปากีสถานจะออกคำตัดสินให้ปล่อยตัวเธอ แต่พบว่าทนายความของเธอได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วหลังถูกขู่เอาชีวิต ด้านผู้เป็นสามีได้เปิดใจผ่านวิดีโอคลิปร้องของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ และผู้นำสหรัฐฯและแคนาดา อนุญาตให้ทั้งครอบครัวได้ลี้ภัย เกรงชีวิตจะไม่ปลอดภัยในปากีสถาน ยอมรับต้องย้ายที่อยู่หลายครั้ง
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(3 พ.ย)ว่า สามีของ อาเซีย บิบี(Asia Bibi)หรือ อาเซีย โนรีน (Asia Noreen) ผู้ต้องหาหญิงคริสเตียนคดีหมิ่นศาสนาในปากีสถานได้ร้องขอให้ผู้นำชาติตะวันตกยื่นมือช่วยเหลือครอบครัวของเขา หลังจากที่ซาอิฟ มูลุค( Saif Mulook) ทนายความของบิบี ได้เดินทางออกนอกประเทศในวันเสาร์(3) หลังโดนขู่ถึงขั้นจะเอาชีวิต
โดยอาชิค มาซีฮ์( Ashiq Masih) สามีของบิบีได้กล่าวว่า ชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในอันตรายในปากีสถาน และถึงแม้ว่าบิบีจะได้รับการตัดสินจากศาลสูงอิสลามาบัดให้ปล่อยตัวเธอเป็นอิสระในวันพุธ(31 ต.ค) จากโทษประหารชีวิตในคดีหมิ่นศาสนาอิสลาม และส่งผลทำให้มีการประท้วงไปทั่วประเทศ แต่ทว่า อ้างอิงจากสื่อเยอรมัน DW พบว่า เธอยังคงอยู่ในเรือนจำต่อไป
ซึ่งสื่ออังกฤษชี้ว่า เวลานี้รัฐบาลอิสลามาบัดเห็นพ้องในการห้ามบิบีเดินทางออกนอกประเทศ
ในวิดีโอคลิป มาซีฮ์ได้กล่าวเปิดใจว่า เขารู้สึกเป็นกังวลในความปลอดภัยของครอบครัว “ผมร้องขอต่อนายกรัฐมนตรีแห่งอังกฤษให้ช่วยเหลือพวกเราให้ได้เร็วที่สุด และช่วยให้เราได้รับเสรีภาพ” นอกจากนี้ยังพบว่าสามีบิบียังได้ร้องขอไปยังผู้นำสหรัฐฯและแคนาดาให้เข้าช่วยเหลือ
ซึ่งในการให้สัมภาษณ์กับ DW สามีบิบีกล่าวยอมรับว่า เขาและครอบครัวรู้สึกกลัวเป็นอย่างมากเมื่อเจ้าหน้าที่ปากีสถานได้บรรลุข้อตกลงกับพรรคเตห์รีค-อี-ลาเบค(Tehreek-i-Labaik) หรือพรรค TLP ในการที่จะยอมยุติการประท้วงคดีกลับคำตัดสินของบิบี
และส่วนหนึ่งของข้อตกลงพบว่า ทางเจ้าหน้าที่ปากีสถานเริ่มกระบวนการห้ามไม่ให้เธอเดินทางออกนอกประเทศ สื่ออังกฤษชี้
นอกจากนี้พบว่า รัฐบาลอิสลามาบัดจะไม่ห้ามไม่ให้ผู้ประท้วงทำการยื่นฟ้องในคำตัดสินของศาลสูงปากีสถานที่สั่งให้ปล่อยตัวเธอโดยให้ความเห็นว่า มีหลักฐานไม่พอ
อาชิค มาซีฮ์กล่าวต่อว่า “ข้อตกลงทำให้ผมเย็นวาบไปทั้งตัว” และชี้ว่า “เป็นสิ่งที่ผิดที่ทำให้มีการเทแรงกดดันลงไปยังกระบวนการทางศาล” และกล่าวว่า “สถานการณ์ปัจจุบันถือว่าเป็นอันตรายสำหรับพวกเราเป็นอย่างมาก พวกเราไม่มีความมั่นคงแต่ยังคงต้องหลบๆซ่อนๆต่อไป ต้องย้ายที่อยู่เสมอ”
นอกจากนี้ผู้เป็นสามีได้กล่าวให้สัมภาษณ์ไปถึงภรรยา โดยชี้ว่า “ภรรยาของผม อาเซีย บิบี ต้องบอบช้ำอย่างหนัก เธอได้ใช้ชีวิตในเรือนจำมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว ส่วนลูกสาวของผมอยากจะเห็นแม่ของตัวเองเป็นอิสระเป็นอย่างมาก แต่ในเวลานี้การตรวจดูคำฟ้องเท่ากับทำให้สถานการณ์ที่ยากลำบากของเธอต้องยืดเยื้อออกไป”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ทอม ทูเกนด์แฮต(Tom Tugendhat)ประธานคณะกรรมาธิการด้านการต่างประเทศประจำสภาอังกฤษได้ร้องขอให้กระทรวงมหาดไทยอังกฤษเร่งพิจารณาสถานการณ์
แต่ทว่า ฟาวาด ชอดรีย์ (Fawad Chaudry) รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลปากีสถานได้กล่าวยืนยันกับบีบีซีว่า ในเวลานี้ได้มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยแก่ อาเซีย บิบี แล้ว โดยชี้ว่า “ใช่ เรามีสถานการณ์แต่ในเวลานี้ทางเรากำลังจัดการอยู่ แต่ผมขอยืนยันกับคุณได้ว่า ชีวิตเธอจะไม่ตกอยู่ในอันตราย”
พร้อมกันนั้นทางชอดรีย์ได้กล่าวไปถึง ข้อตกลงที่ทางอิสลามาบัดทำไว้กับกลุ่มผู้ประท้วงว่า เหมือนกำลังพยายามดับไฟ โดยกล่าวว่าข้อตกลงช่วยให้สถานการณ์สามารถจบลงด้วยดีโดยที่ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น
บีบีซีรายงานเพิ่มเติม ซาอิฟ มูลุค ทนายความของบิบีซึ่งเป็นนักกฎหมาย ยอมรับกับสื่ออังกฤษว่า เขาได้เดินทางออกนอกประเทศจริง เพื่อที่จะสามารถยังคงเป็นตัวแทนทางกฎหมายให้บิบีได้ต่อไป โดยชี้ว่า ตัวเขาไม่มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ในปากีสถานได้อีกต่อไป
“ผมต้องการต่อสู้เพื่อที่จะมีชีวิตรอด และจึงจะสามารถทำหน้าที่ต่อสู้ทางกฎหมายให้กับ อาเซีย บิบี ได้”
คดีของบิบีย้อนไปในปี 2009 โดยเธอถูกกล่าวหาว่าใช้ถ้อยคำหยาบคายกล่าวถึงศาสนาอิสลาม หลังจากหญิงมุสลิมเพื่อนบ้านปฎิเสธไม่ยอมให้เธอดื่มน้ำจากแก้วเดียวกันเนื่องจากเธอนับถือศาสนาคริสต์
และหลังจากเกิดการโต้เถียงหญิงมุสลิมเหล่านั้นนำเรื่องไปฟ้องต่อศาสนจารย์ และกล่าวหาว่าบิบีดูหมิ่นศาสดา นบี มุฮัมหมัด ซึ่งส่งผลทำให้เธอได้รับโทษตัดสินขั้นประหารชีวิตทันที ซึ่งคดียืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2010
