เอเอฟพี – เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกรุงแบกแดดต้องนั่งกุมขมับไปตามๆ กัน หลังพบปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชังตายเกลื่อนนับแสนตัวโดยไม่ทราบสาเหตุ และมีซากปลาจำนวนมากลอยไปติดอยู่อยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรติสเมื่อวานนี้ (2 พ.ย.)
ที่ฟาร์มปลาในเมืองซัดดาด อัล-ฮินดียาห์ ในจังหวัดบาบิโลน ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางใต้ราว 80 กิโลเมตร ก็พบฝูงปลาคาร์พลอยตายอยู่เป็นกลุ่มๆ เช่นกัน
ฮุสเซน ฟาราจ เจ้าของฟาร์มปลาต้องรีบช้อนซากปลาตายขึ้นมาจากบ่อ เพราะเกรงว่าปลาเหล่านี้อาจได้รับสารพิษ
“บางคนคิดว่าปลาเป็นโรคตาย แต่บางคนก็บอกว่าน่าจะเกิดจากสารเคมี” เขากล่าว
“เรากำลังรอรัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหา หรือนำน้ำไปตรวจสอบ... เรากลัวว่าจะได้รับสารพิษจากน้ำด้วยเหมือนกัน”
อิรักเผชิญปัญหาน้ำเน่าเสียครั้งใหญ่เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ประชาชนในเมืองบาสรากว่า 100,000 คนล้มป่วยนอนโรงพยาบาล
จาฟาร์ ยัสซิน เจ้าหน้าที่จากสำนักงานประมงท้องถิ่นยอมรับว่า ทางการยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้ปลาตายเป็นจำนวนมาก และยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
“ปลาในกระชังตายไปประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์” เขาให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
ภาคการประมงอิรักผลิตปลาได้ราวๆ 29,000 ตันต่อปี ตามสถิติขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เมื่อปี 2016
อาหารจานเด็ดที่ชาวอิรักนิยมรับประทานคือ ‘มัสกูฟ’ ซึ่งก็คือปลาคาร์พย่างปรุงรสด้วยซอสที่ทำจากหัวหอมใหญ่ เครื่องเทศ และมะเขือเทศ
กระทรวงสาธารณสุขอิรักระบุเมื่อวานนี้ (2) ว่า ได้เก็บตัวอย่างน้ำจากแหล่งน้ำต่างๆ รวมถึงซากปลาในจังหวัดบาลิโลนไปทำการตรวจสอบแล้ว แต่ยังต้องรอผลการวิเคราะห์
เซอิฟ อัล-บัดร์ โฆษกกระทรวง ยืนยันว่ายังไม่พบผู้ป่วยจากการกินปลาเหล่านี้
ด้าน ซาฟา อัล-จูไนบี หัวหน้าสำนักงานเกษตรประจำภูมิภาคเชื่อว่า สาเหตุของปลาตายน่าจะเกิดจากการเลี้ยงปลาในกระชังแน่นเกินไป จนทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
จูไนบี พบว่าฟาร์มแห่งหนึ่งมีปลาตายไปถึง 56,000 ตัว หรือประมาณ 120 ตัน ซึ่งคิดเป็นมูลค่าความสูญเสีย 300 ล้านดินาร์อิรัก หรือราวๆ 8.2 ล้านบาท