xs
xsm
sm
md
lg

อิเหนากู้กล่องดำ “ไลอ้อนแอร์” สำเร็จ ยืนยันเครื่องบินมีปัญหา 1 วันก่อนจะตก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

<i>ผู้อำนวยการสำนักงานค้นหาและกู้ภัยแห่งชาติของอินโดนีเซีย มูฮัมหมัด สเยากี ถือ “กล่องดำ” ส่วนที่เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลของเที่ยวบิน ซึ่งประดาน้ำกู้มาได้จากซากเครื่องบินของไลอ้อนแอร์ที่ตกลงในทะเล ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (1 พ.ย.) บนเรือกู้ภัยลำหนึ่งซึ่งทอดสมออยู่ในน่านน้ำของ ตันจุง คาราวัง, อินโดนีเซีย </i>
เอเจนซีส์ - ประดาน้ำอินโดนีเซียกู้กล่องดำ 1 ใน 2 กล่องของเที่ยวบินสายการบินไลอ้อนแอร์ ที่ตกลงในทะเลชวา พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 189 ชีวิต ได้สำเร็จแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี (1 พ.ย.) คาดช่วยไขปริศนาโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ขณะที่มีรายงานว่านักบินซึ่งขับเครื่องบินลำเดียวกันนี้ในเที่ยวบินก่อนพบจุดจบ ได้วิทยุเตือนภัยเพียงไม่กี่นาทีหลังทะยานขึ้นจากเกาะบาหลีเนื่องจากพบปัญหาทางเทคนิค แต่แล้วก็แก้ไขได้และยืนยันเดินทางต่อไปจนถึงเมืองหลวงแดนอิเหนาโดยปลอดภัย

เฮอร์สัน ผู้อำนวยการของการท่าอากาศยานประจำพื้นที่บาหลี-นูซา เตงการา เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า หลังจากแจ้งเตือนภัยแล้ว นักบินได้บอกกับหอบังคับการบินเพิ่มเติมในเวลาต่อมาว่า เครื่องบินกลับบินเป็นปกติแล้ว และเขาจะไม่ย้อนกลับไปลงที่สนามบินบาหลีอย่างที่ได้ขอไว้ในตอนต้น

“ตัวกัปตันเองแสดงความมั่นอกมั่นใจว่าสามารถบินจากเดนปาซาร์ (เมืองเอกของบาหลี) ไปถึงจาการ์ตาได้” เฮอร์สัน บอกกับรอยเตอร์จากบาหลีโดยทางโทรศัพท์

เที่ยวบินเดนปาซาร์-จาการ์ตาดังกล่าว ลงจอดที่สนามบินของเมืองหลวงอินโดนีเซียเมื่อเวลา 22.55 น.วันอาทิตย์ (28 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น

จากนั้นเครื่องบินโบอิ้ง 737 แมกซ์ 8 ลำนี้เอง ก็ทะยานขึ้นจากจาการ์ตาในเวลา 6.20 น.ของเช้าวันจันทร์ (29) เพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะบังคา ซึ่งอยู่นอกชายฝั่งเกาะสุมาตรา ทว่ากลับตกลงไปในทะเลในอีก 13 นาทีต่อมา โดยก่อนที่เครื่องบินจะตก นักบินได้ขออนุญาตบินกลับสนามบินเช่นกัน

ในส่วนของการค้นหาและกู้ภัยนั้น อุปกรณ์ “กล่องดำ” ที่กู้ขึ้นมาได้เมื่อวันพฤหัสบดี (1) ถูกระบุว่า เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบิน อุปกรณ์ “กล่องดำ” ที่ติดตั้งบนเครื่องบินโดยสารทุกลำนั้น มีด้วยกัน 2 ส่วน คืออุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบิน และอุปกรณ์บันทึกการสนทนาในห้องนักบิน

ประดาน้ำที่ระบุว่าชื่อ เฮนดรา ให้สัมภาษณ์สถานีเมโทร ทีวีว่า ได้ตามสัญญาณ “ปิง” ไปจนพบกล่องดำจมอยู่ในโคลนใต้ทะเล

ทั้งนี้ กระแสน้ำที่เชี่ยวกรากในทะเลชวา รวมถึงท่อส่งพลังงานในบริเวณดังกล่าว ล้วนเป็นอุปสรรคต่อการค้นหาลำตัวเครื่องบิน ซึ่งคาดว่า จะมีร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากติดอยู่ โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่า ไม่มีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้
<i>ประดาน้ำของกองทัพเรืออินโดนีเซีย (ล่างซ้าย) ถือ “กล่องดำ” ซึ่งกู้ขึ้นมาจากใต้น้ำ ก่อนที่จะบรรจุลงไปภาชนะพลาสติก (ขวา) </i>
โซจันโต เตียห์โจโน ประธานคณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติของอินโดนีเซีย (เคเอ็นเคที) ซึ่งเป็นผู้รับมอบอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินที่พบมาตรวจสอบ กล่าวตั้งแต่เมื่อวันพุธ (31 ต.ค.) ว่า อาจต้องใช้เวลาในการดาวน์โหลดข้อมูลจากกล่องดำถึง 3 สัปดาห์ และใช้อีก 6 เดือนสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าว

ก่อนหน้านั้น ฮาร์โย ซัตมิโก รองประธานเคเอ็นเคที ให้สัมภาษณ์ว่า โดรนใต้น้ำตรวจพบวัตถุที่สงสัยว่า เป็นชิ้นส่วนของลำตัวเครื่องบินจมอยู่ที่ระดับความลึกราว 30 เมตร ไม่ไกลจากบริเวณที่เครื่องบินขาดการติดต่อ

เวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของบริษัทโบอิ้งและคณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ ร่วมกับทีมงานของอินโนดีเซีย กำลังตรวจสอบชิ้นส่วนโลหะที่บิดเบี้ยวของเครื่องบิน ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของผู้โดยสารที่กู้ขึ้นมาได้ เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าสตางค์ และโทรศัพท์มือถือ ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกส่วนส่งชิ้นส่วนร่างกายที่พบไปยังโรงพยาบาลเพื่อเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของญาติผู้โดยสารและลูกเรือ

ขณะที่สื่อคาดเดาไปต่างๆ นานาๆ เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการบินของเครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุ กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียได้สั่งพักงานผู้อำนวยการฝ่ายซ่อมบำรุงและวิศวกรรม ผู้จัดการการซ่อมบำรุงกองบิน และวิศวกรของไลอ้อนแอร์ที่อนุญาตให้เครื่องบินลำดังกล่าวขึ้นบินในวันจันทร์

บูดี การ์ยา สุมาดี รัฐมนตรีคมนาคมอินโดนีเซียสำทับว่า จะมีการตรวจสอบเที่ยวบินของไลอ้อนแอร์แบบสุ่มราว 40% ของทั้งหมด ขณะที่สายการบินอื่นๆ จะถูกตรวจสอบเพียง 10-15%

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ยังสั่งทบทวนกฎระเบียบทั้งหมดเกี่ยวกับความปลอดภัยในการบิน และรัฐบาลกำลังพิจารณาทบทวนค่าตั๋วเครื่องบิน โดยอาจขึ้นค่าตั๋วของสายการบินต้นทุนต่ำ

ทั้งนี้ ไลอ้อนแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำของเอกชนที่เริ่มดำเนินการในปี 1999 เผยว่า เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเพิ่งออกให้บริการในเดือนสิงหาคม และอยู่ในมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการบิน ขณะที่นักบินและนักบินที่สองมีประสบการณ์การบินรวม 11,000 ชั่วโมง

อย่างไรก็ดี จากข้อมูลของเคเอ็นเคที เครื่องบินลำดังกล่าวมีปัญหาทางเทคนิคในเที่ยวบินจากบาหลีไปจาการ์ตาเมื่อวันอาทิตย์ (28 ต.ค.) ซึ่งรวมถึงปัญหาจากระดับความเร็วของเครื่องบินที่ไม่น่าเชื่อถือ

เอ็ดเวิร์ด ไซเรต ประธานบริหารไลอ้อนแอร์ ยอมรับว่าเครื่องมีปัญหาจริง แต่มีการซ่อมบำรุงตามกระบวนการแล้วก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ขึ้นบินอีกครั้ง




กำลังโหลดความคิดเห็น