รอยเตอร์ – ความพยายามที่จะตัดสินอนาคตของไต้หวันด้วยวิธีนอกเหนือไปจาก “วิธีการทางสันติ” เป็นความกังวลอย่างยิ่งสำหรับสหรัฐฯ นักการทูตอาวุโสคนหนึ่งของสหรัฐฯ กล่าวในวันนี้ (31)
วอชิงตันไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทเป แต่เป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่และผู้สนับสนุนต่างชาติที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด
ในเดือนนี้ ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ของไต้หวันประกาศว่าจะเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ และกล่าวว่า รัฐบาลของเธอจะไม่ยินยอมให้จีนกดขี่ข่มเหง
“ความพยายามใดๆก็ตามที่จะกำหนดอนาคตของไต้หวันนอกเหนือจากวิธีการทางสันติเป็นความกังวลอย่างยิ่งสำหรับสหรัฐฯ” เบรนต์ คริสเตนเซ่น ผู้อำนวยการสถานทูตโดยพฤตินัยของสหรัฐฯในไทเป บอกกับผู้สื่อข่าว เขาไม่ได้อธิบายเพิ่มเติม
จีนซึ่งไม่เคยบอกว่าจะไม่ใช้กำลังเพื่อนำไต้หวันกลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมเพิ่มแรงกดดันทางทหารและทางการทูตต่อไทเป
กองทัพจีนยกระดับการซ้อมปิดล้อมรอบไต้หวันซึ่งเกาะแห่งนี้ประณามว่าเป็นการข่มขู่ และอดีตพันธมิตร 3 ราย ได้แก่ เอลซัลวาดอร์ บูร์กินาฟาโซ และสาธารณะรัฐโดมินิกัน ก็หันไปสร้างความสัมพันธ์กับปักกิ่งในปีนี้
สำนักงานผู้แทนแห่งใหม่มูลค่า 256 ล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯในเมืองหลวงของไต้หวันเป็นสัญลักษณ์สำคัญของความเป็นหุ้นส่วน คริสเตนเซ่น กล่าว และเสริมว่า วอชิงตันจะสนับสนุนบทบาทสำคัญของไต้หวันในประชาคมโลกต่อไป
จีนไม่พอใจกับการถูกสหรัฐฯคว่ำบาตรกองทัพเมื่อไม่นานมานี้ หนึ่งในข้อขัดแย้งในความสัมพันธ์ที่มีตั้งแต่สงครามการค้าและประเด็นไต้หวันจนถึงการเสริมแสนยานุภาพของจีนในทะเลจีนใต้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐฯส่งเรือรบสองลำผ่านช่องแคบไต้หวันเป็นครั้งที่สองในปีนี้ ถึงแม้ว่าจะถูกต่อต้านจากจีนก็ตาม
ในปักกิ่ง โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน กล่าวว่า ประเด็นไต้หวันเกี่ยวข้องกับอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของจีน
“เราคัดค้านการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการหรือการทำข้อตกลงทางทหารใดๆ ก็ตามระหว่างฝ่ายสหรัฐฯและไต้หวัน” หม่า เสี่ยวกวง บอกในการบรรยายสรุปข่าวไม่นานก่อนความคิดเห็นของคริสเตนเซ่น
“เราต้องการเน้นย้ำอีกครั้งว่า การพึ่งพาต่างชาติเพื่อเพิ่มความมั่นคงให้กับตัวท่านเองหรือการสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติเพื่อทำลายสันติภาพและความมั่นคงในช่องแคบไต้หวันจะนำมาซึ่งผลลัพธ์” เขา กล่าวเสริม โดยสื่อไปถึงรัฐบาลไต้หวัน