เอเจนซีส์ - ในการประชุมหารือวิกฤตซีเรียที่เมืองอิสตันบูลสุดสัปดาห์ ผู้นำ 4 ชาติจากรัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมัน และตุรกี ออกแถลลงการณ์ร่วมหลังการประชุมซัมมิต เรียกร้องให้มีสัญญาหยุดยิงถาวรเกิดขึ้นในสงครามกลางเมืองซีเรีย ในความพยายามสุดท้ายที่จะใช้หนทางการเมืองเพื่อแก้วิกฤต
ดิเอ็กซเพรส สื่ออังกฤษรายงานวันเสาร์(27 ต.ค)ว่า หลังจากการหารือที่ยาวนานหลายชั่วโมงที่เมืองอิสตันบูล ตุรกี 4 ชาติผู้นำได้แก่ ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุแอล มาครง นายกรัฐมนตรีเยอรมัน อังเกลา แมร์เคิล และประธานาธิบดีตุรกีเจ้าภาพ เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน เห็นร่วมกันว่า ต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการรัฐธรรมนูญที่มี “ซีเรีย” เป็นผู้นำโดยเร็วที่สุด โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้สงครามกลางเมืองซีเรียอายุ 7 ปีต้องถึงเวลาปิดฉาก
ด้านผู้นำหญิงเยอรมันกล่าวว่า ต้องมีขั้นตอนกำหนดเพื่อให้มีการเลือกตั้งที่เสรีในซีเรีย และเปิดโอกาสให้พลเมืองซีเรียทุกคนสามารถเข้าร่วม รวมไปถึงคนที่หนีออกนอกประเทศ
นอกจากนี้ผู้นำทั้ง 4 ชาติยังตกลงร่วมกันให้มี “สัญญาหยุดยิงเกิดขึ้นอย่างถาวร” รวมไปถึงการสร้างเงื่อนไขให้เกิดขึ้นในซีเรียเพื่อให้ผู้อพยพสามารถหนีจากการสู้รบได้
และสำหรับแอร์โดอัน ได้มีการออกมาเรียกร้องชาติอื่นๆให้เพิ่มการสนับสนุนกลุ่มผู้อพยพ ซึ่งผู้นำตุรกีได้ประกาศว่า “ประชาชนชาวซีเรียจะเป็นผู้ตัดสินอนาคตของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด”
สำหรับความคืบหน้าก่อนหน้า พบว่าในเดือนที่ผ่านมา ทั้งแอร์โดอันและปูตินตกลงให้มีการจัดตั้งเขตบัฟเฟอร์โซนในพื้นที่ขนาด 15-20 ก.ม กินลึกเข้าไปในดินแดนของกลุ่มกบฎซีเรีย ส่งผลทำให้ต้องเคลื่อนย้ายทั้งอาวุธหนักทั้งหมดและนักรบญิฮัดออกไป
มาครงได้ออกมาให้ความเห็นในวันเสาร์(27) หลังการประชุมว่า ส่วนชุมชนนานาชาติจะร่วมกันจับตาเพื่อทำให้มั่นใจว่า “ตุรกี” และ “รัสเซีย”ได้ทำตามข้อตกลงที่ได้ให้ไว้ โดยเขากล่าวว่า “พวกเราจะตื่นตัวเป็นอย่างมาก เพื่อต้องการให้มั่นใจว่าพันธสัญญาเหล่านี้สัมฤทธิ์ผล และข้อตกลงหยุดยิงนั้นมีสถานะที่มั่นคงและยั่งยืน”
สื่ออังกฤษชี้ว่า ตุรกีและรัสเซียได้มีการพบกันก่อนหน้าแล้วสำหรับการหารือถึงทางออกที่เป็นไปได้ในการที่จะยุติสงครามซีเรีย แต่ทว่าทั้ง 2 ฝ่ายกลับไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้
ซึ่งสำหรับการประชุมในวันเสาร์(27)ที่เมืองอิสตันบูลนั้น มีความพิเศษตรงที่ ถือเป็นครั้งแรกของการประชุมซัมมิตวิกฤตซีเรีย ที่มีปูตินและแอร์โดอันนั่งหารือภายในห้องเดียวกันพร้อมกันกับ 2 ผู้นำชาติตะวันตกที่ทรงอิทธิพลในสหภาพยุโรปเช่น เยอรมันและฝรั่งเศส
และพบว่าสตาฟฟาน เดอ มิสทูรา ( Staffan de Mistura) ทูตพิเศษสหประชาชาติด้านซีเรียที่กำลังจะลงจากตำแหน่งในสิ้นเดือนหน้าเนื่องมาจากปัญหาส่วนตัวเกี่ยวกับครอบครัวเป็นหลัก นั้นร่วมอยู่ในการหารือวันเสาร์(27)เช่นกัน
ดิเอ็กซเพรสชี้ว่า มีการยิงเกิดขึ้นในวันศุกร์(26)ที่เมืองอิดลิบ ซีเรีย ทำให้มีพลเรือนอย่างน้อย 7 รายเสียชีวิต ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดโดยเกิดภายในแค่ 1 วันนับตั้งแต่รัสเซียหยุดปฎิบัติการโจมตีทางอากาศตั้งแต่กลางสิงหาคม อ้างอิงจากรอยเตอร์
สื่ออังกฤษชี้ว่า แม้ว่าบรรดาผู้นำ 4 ชาติที่ร่วมการประชุมต่างกล่าวว่า มีความต้องการที่จะหาทางออกสำหรับวิกฤตซีเรีย ทว่าคนเหล่านี้กลับชี้ว่า พวกเขามีความคาดหวังน้อยว่า คนเหล่านี้จะสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ในทางออกสำหรับการแก้ปัญหาในระยะยาวได้สำเร็จ
โดยทางทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสออกแถลงการณ์วันศุกร์(26)ว่า “มีความคาดหวังที่ต่ำ” ส่วน ดมิตรี เพสคอฟโฆษกประธานาธิบดีปูติน ได้ขอให้มองตามความเป็นจริงถึงสิ่งที่จะสามารถบรรลุได้ในการประชุม
และเสริมต่อว่า ทุกคนที่เข้าร่วมการประชุมซัมมิตต่างต้องการให้มีการหาทางออกเพื่อยุติทางการเมืองให้ได้
สื่ออังกฤษชี้ว่า แต่ทว่าผู้เล่นขาใหญ่ในวิกฤต 2 ชาติไม่ได้เข้าร่วมการประชุมซัมมิตครั้งนี้คือ “สหรัฐฯ” และ “อิหร่าน” แต่ทางประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้แจ้งว่า เขาได้รายงานสรุปสำหรับยุทธศาตร์นี้ต่อผู้นำสหรัฐฯ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ภายในสัปดาห์การหารือแล้ว