รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่เอฟบีไอจับกุมตัวชายวัย 56 ปีรายหนึ่งในฟลอริดาในวันศุกร์(26ต.ค.) ฐานต้องสงสัยเป็นคนส่งพัสดุระเบิดสิบกว่าห่อไปยังเหล่านักวิจารณ์ตัวยงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ไม่กี่วันก่อนถึงศึกเลือกตั้งกลางเทอม
รายงานข่าวระบุว่าพวกเจ้าหน้าที่เข้าควบคุตัวนายเซซาร์ ซาย็อค ในแพลนเทชัน ใกล้ๆฟอร์ต ลอเดอร์เดล และยังได้ยึดรถตู้สีขาวติดสติ๊กเกอร์สนับสนับสนุนทรัมป์, ติดข้อความด่าทอสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า "CNN SUCKS" และภาพกลุ่มบุคคลของพรรคเดโมแครตโดยมีรูปเป้ากระสุนสีแดงอยู่บนใบหน้าของพวกเขา
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายระบุว่ารถตู้คันดังกล่าวเป็นของ ซาย็อค ส่วนผู้เห็นเหตุการณ์ 2 คน ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่าได้ยินเสียงปังดังสนั่นตอนที่เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวเขาที่บริเวณลานจอดรถของห้างออโต้โซน
เจ้าหน้าที่เอฟบีไอเผยว่าได้ใช้การพิสูจน์ดีเอ็นเอและลายนิ้วมือระบุตัวตนผู้ต้องสงสัยที่ส่งพัสดุอย่างน้อย 14 ห่อไปยังเหล่านักวิจารณ์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่กี่วันก่อนถึงศึกเลือกตั้ง
คริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวว่าลายนิ้วมือบนห่อพัสดุที่ส่งถึง แมกซีน วอเตอร์ส ส.ส.เดโมแครตจากรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นของ ซาย็อค ด้าน เจฟฟ์ เซสซันส์ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯเผยว่า ซาย็อค ถูกตั้งข้อหาอาญา 5 กระทง ในนั้นรวมถึงข่มขู่เหล่าอดีตประธานาธิบดี และหากพบว่ามีความผิดจริง อาจติดคุกสูงสุดถึง 48 ปี
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังคงสืบสวนว่ามีคนอื่นๆเกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วยหรือไม่ และไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่อาจมีการจับกุมเพิ่มเติม หรือตรวจพบพัสดุระเบิดเพิ่มเติมอีก
คำแถลงเกี่ยวกับการจับกุมผู้ต้องสงสัยของเอฟบีไอ เรียกเสียงเฮในทำเนียบขาว ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า "พฤติกรรมข่มขู่นี้" เป็นสิ่งที่เลวทรามและไม่ควรมีที่ยืนในสหรัฐฯ "เราไม่ควรปล่อยให้ความรุนแรงทางการเมืองหยั่งรากในอเมริกา มันไม่อาจปล่อยให้เกิดขึ้นได้ และผมสัญญาว่าจะทำทุกอย่างภายใต้อำนาจประธานาธิบดี เพื่อหยุดยั้งมันและหยุดมันในตอนนี้"
จากข้อมูลสาธารณะ พบว่าซาย็อค ลงทะเบียนในฐานะสมาชิกรีพับลิน และเคยถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในนั้นรวมคดีหนึ่งซึ่งเขาถูกกล่าวหาว่าข่มขู่ด้วยระเบิด ขณะที่แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายคาดหมายว่าเขาน่าจะถูกตั้งข้อหาและดำเนินคดีโดยอัยการกลางในแมนฮัตตัน
ไม่มีใครออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุส่งพัสดุระเบิดไปยังอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาและคนอื่นๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ประณามว่าเป็นก่อการร้าย ขณะที่คดีนี้เกิดขึ้นไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก่อนถึงศึกเลือกตั้งกลางเทอมสหรับฯ ที่อาจเปลี่ยนสมดุลอำนาจในทำเนียบขาว
สื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าในวันศุกร์(26ต.ค.) ตรวจพบพัสดุต้องสงสัยเพิ่มเติมอีก 4 ห่อ ทำให้ยอดรวมพัสดุต้องสงสัยเป็นระเบิดเพิ่มเป็น 14 ห่อ อย่างไรก็ตามพัสดุเหล่านั้นยังไม่มีห่อไหนที่เกิดระเบิดและยังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
พัสดุต้องสงสัยที่ตรวจพบเพิ่มอีก 4 ห่อในวันศุกร์(26ต.ค.) ประกอบด้วยพัสดุที่จ่าหน้าถึง คอรี บูเคอร์ ส.ว.สหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต, เจมส์ แคลปเปอร์ อดีตผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ, คามาลา แฮร์ริส วุฒิสภาชิกจากเดโมแครตและ ทอม สตีเยอร์ ผู้บริจาคของพรรคเดโมแครต
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายบอกว่าการสืบสวนได้ยกระดับพุ่งเป้าไปที่ฟลอริดา ตำรวจได้ปิดถนนหลายสายใกล้กับลานจอดรถของออโต้โซน ในแพลนเทชัน บริเวณที่ ซาย็อค ถูกจับกุม ท่ามกลางเฮลิคอปเตอร์หลายลำที่บินวนอยู่ด้านบน
ทุกคนที่ตกเป็นเป้าหมายถูกส่งพัสดุห่อระเบิดครั้งนี้ ต่างเป็นผู้ที่ถูกนักวิพากษ์วิจารณ์ขวาจัดโจมตีว่าร้ายเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา, ฮิลลารี คลินตัน อดีตผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีและอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ, อดีตรองประธานาธิดบี โจ ไบเดน รวมไปถึง จอร์จ โซรอส ผู้บริจาคเงินสนับสนุนพรรคเดโมแครต
นอกจากนี้ยังมี อีริก โฮลเดอร์ รัฐมนตรียุติธรรมในยุคของโอบามา, จอห์น เบรนนัน อดีตผู้อำนวยการซีไอเอ, แมกซีน วอเตอร์ส ส.ส.เดโมแครตจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่วิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์อย่างดุเดือด และ โรเบิร์ต เดอ นีโร ดาราฮอลลีวูดรุ่นใหญ่
เหตุการณ์นี้กระพือเสียงโวยวายจากพวกวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์ ซึ่งเคยกล่าวหาประธานาธิบดีรายนี้ว่าให้ถ้อยคำยั่วโทสะเดโมแครตและสื่อมวลชน จนก่อบรรยากาศแห่งสถานการณ์ความรุนแรงที่มีแรงจูงใจทางการเมือง
ในตอนแรกประธานาธิบดีทรัมป์ แสดงปฏิกิริยาเรียกร้องให้สามัคคีกัน แต่ต่อจากนั้นก็เลี้ยวกลับไปโจมตีพวกสื่อมวลชน
“ความโกรธเกรี้ยวที่ใหญ่มากๆ ซึ่งเราเห็นกันวันนี้ในสังคมของเรา มีสาเหตุจากการรายงานข่าวอย่างจงใจผิดพลาดและอย่างไม่ถูกต้องแม่นยำของพวกสื่อกระแสหลัก ซึ่งผมเรียกมันว่าข่าวปลอม” ทรัมป์ทวีตในตอนเช้ามืดวันพฤหัสบดี
คณะสืบสวนปฏิเสธให้ความเห็นว่าระเบิดเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นมาให้ทำงานได้จริงหรือไม่ ขณะที่พวกนักวิเคราะห์ด้านระเบิดและความปลอดภัย ระบุว่าจากพื้นฐานการประดิษฐ์แบบลวกๆ จึงเชื่อว่ามันน่าจะถูกออกแบบมาเพื่อแพร่กระจายความกลัวมากกว่าที่จะตั้งใจเข่นฆ่าใคร
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง 2 คนที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวน เตือนว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าพัสดุเหล่านั้นไม่มีประสิทธิภาพในการก่อระเบิดหรือตั้งใจแบบมาเพื่อสร้างความตื่นตระหนกหรือไม่
