xs
xsm
sm
md
lg

In Clip: หัวหน้าทีมเจรจาสันติภาพกบฎฟาร์ค-วุฒิสมาชิกโคลอมเบีย ยอมเข้าติดต่อศาลพิเศษ JEP ตามเส้นตายหลังหลบหนี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี – อิวาน มาร์เควซ (Ivan Marquez)ชายผู้ทำหน้าที่นำทีมการเจรจาสันติภาพให้กับกบฎฟาร์ค (FARC ) โผล่ออกมาจากที่ซ่อนในวันพุธ(24 ต.ค) ตกลงยอมทำตามข้อเรียกร้องที่อดีตกลุ่มกองโจรยืนยันต่อข้อผูกพันในข้อตกลงสันติภาพปี 2016 ระหว่างกลุ่มและรัฐบาลโคลอมเบีย หลังกลิ่นไม่ดีผู้นำรัฐบาลโบโกต้าคนปัจจุบันมีแนวโน้มจะแก้ข้อตกลงที่ทำไว้หลังอาวุธถูกเก็บจากกลุ่มไปหมดแล้ว

เอเอฟพีรายงานวันนี้(25 ต.ค)ว่า ศาลยุติธรรมพิเศษเพื่อสันติภาพ JEP (The Special Jurisdiction for Peace) ที่ถูกก่อตั้งหลังข้อตกลงสันติภาพระหว่างกบฎฟาร์ค(FARC ) และรัฐบาลโคลอมเบียปี 2016 ได้ประกาศว่า อิวาน มาร์เควซ (Ivan Marquez) ได้ยื่นแถลงการณ์ผ่านทางทนายความของเขาเอง

ที่ผ่านมาทางศาลได้ขอให้ผู้บัญชาการกลุ่มกบฎจำนวน 30 คนยืนยันคำมั่นต่อข้อตกลงของกลุ่มฟาร์คที่ลงนามไว้เมื่อพฤศจิกายน 2016

ซึ่งศาลพิเศษถูกตั้งเพื่อทำการไต่สวนอดีตบรรดาผู้นำกองโจรที่ถูกกล่าวหาก่อคดีอุกอาจในช่วงระหว่างสงครามที่มีระยะเวลานานร่วม 50 ปี ซึ่งทางศาลยุติธรรมพิเศษเพื่อสันติภาพได้กำหนดเส้นตายวันสุดท้ายในวันอังคาร(23) ล่าสุดสำหรับบรรดาผู้นำบัญชาการรบกบฎฟาร์คที่ยังคงหลบหนี

และหากไม่ทำตามที่กำหนดในการติดต่อ เอเอฟพีชี้ว่า บุคคลนั้นอาจเสี่ยงต่อการถูกถอดจากรายชื่อ และเผชิญหน้ากับกระบวนการไต่สวนทางยุติธรรมตามขั้นตอนศาลปกติแทน

ทั้งนี้พบว่าศาลพิเศษ JEP เสนอทางออกอื่นสำหรับโทษจำคุกให้แก่กลุมที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง “ทั้งสมาชิกกองโจรฟาร์คและทหาร” ผู้ซึ่งที่ยอมรับในความผิดที่ได้กระทำลงไป ต้องจ่ายค่าชดเชยให้เหยื่อและประณามที่จะปฎิเสธต่อความรุนแรง

อย่างไรก็ตาม ทาง JEP กล่าวว่าทางศาลพิเศษโคลอมเบียตระหนักในรายงานที่ว่า มีอดีตผู้บัญชาการรบฟาร์คจำนวนหนึ่งไม่มากนักได้ก่อคดีอาชญากรรมหลังจากมีการลงนามข้อตกลงสันติภาพปี 2016 เกิดขึ้นแล้ว และดังนั้นกลุ่มคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมหลังข้อตกลงเท่านั้นที่จะได้รับประโยชน์จากศาลพเศษเพื่อสันติภาพ JEP นี้ เอเอฟพีชี้

และพบว่ามีอดีตหัวหน้ากองโจรฟาร์คจำนวนไม่กี่คน รวมไปถึง อิวาน มาร์เควซ ที่ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งวุฒิสมาชิกโคลอมเบีย และหนีหายไปหลบซ่อนอยู่ในที่ปลอดภัยหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ซึ่งบรรดาสื่อในประเทศโคลอมเบียชี้ว่า บางทีคนเหลานี้อาจเข้าไปรวมกับกลุ่มกบฎฟาร์คที่ยังหลงเหลืออยู่บริเวณเทือกเขา หรือหนีข้ามพรมแดนไปเวเนซุเอลา ซึ่งในเวลานี้พรรคการเมืองฟาร์คถูกปฎิเสธ

โดยที่ผ่านมากลุ่มกบฎกองโจรการปฎิวัติเพื่อโคลอมเบีย ได้วิจารณ์รัฐบาลโบโกตาถึงการไม่ยอมทำตามคำมั่นสัญญาในการจัดหาทรัพยากรเพื่อชวยเหลืออดีตกองกำลังกองโจรทั้งหลายเพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับชีวิตพลเรือนตามปกติได้



และความวิตกของคนเหล่านี้มีมากขึ้นโดยเฉพาะหลังจากชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อต้นปี 2018 ที่รัฐบาลการเมืองปีกขวาของประธานาธิบดี อิวาน ดุค (Ivan Duque)เข้ามารับตำแหน่ง พร้อมคำมั่นที่จะแก้ช่องโหว่ของข้อตกลงที่รัฐบาลก่อนหน้าของอดีตประธานาธิบดี ฮวน มานูเอล ซานโตส( Juan Manuel Santos)ได้ทำไว้

และผลสำเร็จจากข้อตกลงสันติภาพกับกบฎฟาร์คทำให้อดีตประธานาธิบดีซานโตสได้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในที่สุด อย่างไรก็ตาม ผู้นำคนปัจจุบันของโคลอมเบียกล่าววิจารณ์ว่า ข้อตกลงนั้นอ่อนเกินไป จนถึงขั้นยอมให้อดีตผู้นำกองโจรที่กระทำความผิดสามารถเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองของโคลอมเบียได้

แต่อย่างไรก็ตามในจดหมายเปิดผนึกที่ถูกตีพิมพ์บนหน้าหนังสือพิมพ์โคลอมเบียเมื่อต้นปีนี้ อดีตวุฒิสมาชิก มาร์เควซ และอดีตผู้บัญชาการรบฟาร์ค ออสการ์ มอนเตโร(Oscar Montero) ได้เขียนว่า การเปลี่ยนแปลงใดๆในข้อตกลงหลังการส่งมอบอาวุธไปแล้วเท่ากับเป็น “การทรยศ”

ซึ่งในจดหมายที่จ่าหน้าโดยตรงปถึงคณะกรรมาธิการสันติภาพประจำสภาสูงโคลอมเบีย ผู้นำกองโจรทั้งสองได้ชี้ว่า ความผิดพลาดทางโครงสร้างหลักของข้อตกลงคือ “ทำการส่งมอบอาวุธ” โดยปราศจากการตรวจสอบล่วงหน้าถึงทางด้านเศรษฐกิจ และการปรับตัวของบรรดาสมาชิกกลุ่มกองโจรในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคม


กำลังโหลดความคิดเห็น