xs
xsm
sm
md
lg

In Pics: ภาพดาวเทียมชี้ “ปักกิ่ง” แอบสร้างค่ายกักกันอุยกูร์ซินเจียง ลับทะเลทราย สื่อตะวันตกแฉ “แก๊สน้ำตา-เครื่องช็อตไฟฟ้า-หอคอยผู้คุม” อยู่ด้านใน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซีส์/เอเอฟพี/MGRออนไลน์ – บีบีซีเปิดเผยล่าสุดโดยภาพถ่ายดาวเทียมที่ระบุโดยนักวิจัยชี้ว่า ในเวลานี้ปักกิ่งกำลังแอบสร้างค่ายกักกันมุสลิมอุยกูร์ซินเจียงที่ใหม่กลางทะเลทราย ซึ่งพิกัดที่ตั้งอยู่ด้านนอกเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งชื่อ ดาบันเฉิง(Dabancheng) ห่างจากเมืองเอกประจำมณฑล อุรุมชี(Urumqi) ในเขตปกปครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ห่างออกไปราว 1 ช.มทางรถ ขณะเดียวกันเอเอฟพี สื่อฝรั่งเศสเปิดชอปปิ้งลิสต์ของค่ายกักกันในเขตปกครองตนเองซินเจียงเกิดขึ้นเมื่อต้นปี พบกระบองตำรวจ 2,768 อัน ปฎักไฟฟ้าสำหรับปศุสัตว์ 550 อัน กุญแจมือ 1,367 คู่ และพริกไทยป้องกันตัว 2,792 กระป๋อง

บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(24 ต.ค)ถึงค่ายกักกันลับกลางทะเลทรายที่ทางการจีนกำลังก่อสร้างอยู่ในเวลานี้ ซึ่งทางสื่ออังกฤษชี้ว่า มีการระแคะระคายถึงค่ายกักกันลับแห่งนี้ที่บริเวณนอกเมืองดาบันเฉิง(Dabancheng) ห่างจากเมืองเอกประจำมณฑล อุรุมชี(Urumqi) ในเขตปกปครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ จากเมื่อวันที่ 12 ก.ค 2015 เป็นพื้นที่รกร้างและมีแต่โอเอซิสกลางทะเลทรายเท่านั้น แต่อีกไม่ถึง 3 ปี เมื่อวันที่ 22 เม.ย 2018 พบความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มีสิ่งปลูกสร้างที่ดูมีความแน่นหนาขนาดใหญ่ผุดขึ้น

เป็นลักษณะสิ่งปลูกสร้างที่มีหอการ์ดผู้คุมเฝ้าระวังจำนวน 16 จุดในพื้นที่กำแพงด้านนอกความยาวร่วม 2 ก.ม

ซึ่งในการรายงานเชิงสอบสวนที่ทางบีบีซีส่งผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ยังมีการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียวในพื้นที่เดียวกันแต่ระยะเวลาต่างกันเพื่อดูถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

นอกเหนือภาพจากกูเกิลเอิร์ทแล้ว สื่ออังกฤษยังใช้ฐานข้อมูลเซนทิเนล(Sentinel database) ขององค์การสำรวจอวกาศยุโรป โดยเปรียบเทียบความแตกต่างของภาพที่ถูกถ่ายไว้ได้เมื่อเดือนเมษายน ปีนี้ และในเดือนนี้ บีบีซีสรุปจากภาพที่เห็นว่า ***มีความเปลี่ยนแปลงไปมาก***

ซึ่งทางสื่ออังกฤษชี้ว่า จากโครงสร้างน่าจะเป็นที่ตั้งเรือนจำขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างไปทั่วเขตซินเจียงในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งปรากฎเป็นอาคารสิ่งปลูกสร้างที่มีหอคอยการ์ดควบคุม 16 จุด

และจากการสัมภาษณ์ทางโทรศัทพ์ที่ได้จากการสุ่มหมายเลขท้องถิ่นซินเจียง ประชาชนในพื้นที่ต่างตอบกลับมาว่า อาคารที่ว่าเป็น “โรงเรียนปรับทัศนคติ” ที่มีชาวอุยกูร์ในซินเจียงจำนวนหลายหมื่นคนอยู่ด้านในแล้วในเวลานี้

ในขณะเดียวกัน เอเอฟพีได้รายงานในวันเดียวกัน(24) ถึงรายการจัดซื้อของภาคส่วนรัฐบาลในค่ายกักกันในเขตปกครองตนเองซินเจียงเกิดขึ้นเมื่อต้นปี พบกระบองตำรวจ 2,768 อัน ปฎักไฟฟ้าสำหรับปศุสัตว์ 550 อัน กุญแจมือ 1,367 คู่ และพริกไทยกระป๋องป้องกันตัว 2,792 กระป๋อง

ซึ่งทางเอเอฟพีชี้ว่า สิ่งของเหล่านี้นั้นห่างไกลจากสิ่งที่เรียกว่า เพื่อช่วยให้ชาวอุยกูร์สามารถพัฒนาทักษะทางอาชีพได้

เอเอฟพีชี้ว่า ทางสื่อได้ตรวจสอบเอกสารทางการกว่า 1,500 ชิ้นที่ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะที่มีตั้งแต่สัญญาจัดซื้อและงบประมาณไปจนถึงรายงานทางการ ที่แสดงให้เห็นว่า ศูนย์ในเขตซินเจียงถูกใช้เป็นคุกมากกว่าโรงเรียนฝึกอาชีพตามการกล่าวอ้าง

ผู้คุมจำนวนหลายพันคนนั้นมีอุปกรณ์ป้องกันตัวเป็นต้นว่า แก๊สน้ำตา เครื่องช็อตไฟฟ้า และปฎักเพื่อควบคุมฝูงชนด้านในที่เรียกว่า “นักเรียน” ภายในศูนย์ที่ล้อมไปด้วยขดลวดหนาม และกล้องตรวจจับระบบอินฟาเรด อ้างอิงจากเอกสารทางการที่เอเอฟพีเห็น

เอเอฟพีกล่าวว่า ด้านในถูกจัดการด้วยระบบกองทัพ แต่ได้รับการป้องกันด้านการรักษาความปลอดภัยไม่ต่างเรือนจำความมั่นคงสูง

ในเอกสารชี้ว่า มีเป้าหมายสูงสุดให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมต้องห่างจากบรรพบุรุษ จากรากเดิมของตัวเอง จากความผู้กพัน และจากถิ่นฐาน เพื่อสร้างพลเมืองของชาติใหม่ คล้ายกับคำสอนของลัทธิคอมมิวนิสต์อย่างไรอย่างนั้น

ในการวิเคราะห์ของเอเอฟพี พบว่า ในปี 2017 ค่าใช้จ่ายที่มาจากยุติธรรมส่วนกลาง (justice bureaus) ให้กับเขตซินเจียงทั้งหมด พบว่างบส่วนใหญถูกเทไปให้กับการก่อสร้างอาคารและศูนย์ฝึกอาชีพ

โดยพบว่าทางสำนักงานใช้เกือบ 3 พันล้านหยวน (432 พันล้านดอลลาร์) เกินกว่า 557% ที่ได้เคยวางแผนไว้

อย่างไรก็ตาม เคาน์ตีต่างๆทางใต้ได้งบพิเศษเพื่อช่วยส่วนต่าง และพบว่ามีบางส่วนได้มาจากหน่วยการเมืองกลาง(Central Political)ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และคณะกรรมาธิการด้านกฎหมาย(Legal Affairs Commission) ซึ่งรับผิดชอบดูแลหน่วยงานทางกฎหมายต่างๆของจีน

ราวเมษายน ปี 2017 พบว่ารัฐบาลท้องถิ่นได้เปิดให้มีการประมูลสัญญาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับค่ายกักกันอุยกูร์ในซินเจียง

ซึ่งบางคำสั่งซื้อที่น่าสนใจรวมไปถึง ระบบกล้องทีวีวงจรปิดทันสมัย กล้องสำหรับบันทึกภายในห้องของนักเรียนปรับทัศนคติ ลวดสนาม ระบบดักฟังทางโทรศัพท์ อุปกรณ์ตรวจจับอินฟราแรด

นอกจากนี้ เอเอฟพีพบว่า ศูนย์เหล่านี้ได้ออกคำสั่งซื้อ ชุดเครื่องแบบตำรวจ หมวกและโล่ปราบจลาจล สเปรย์พริกไทย แก๊สน้ำตา เครื่องยิงตาข่ายสำหรับควบคุมฝูงชน เครื่องช็อตไฟฟ้า กระบองไฟฟ้า หอก กระบอก 2 ท่อน กุญแจมือ และสนับมือ เป็นต้น

และมีศูนย์อย่างน้อย 1 แห่งในเขตซินเจียงสั่งซื้อ เก้าอี้ผู้ต้องหาสำหรับการทรมานระหว่างสอบปากคำในจีน ที่เรียกว่า “tiger chairs”

อย่างไรก็ตาม เอเอฟพีชี้ว่า เจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์ในเมืองอุรุมชีอ้างว่า “รายการสั่งซื้อเหล่านั้นล้วยจำเป็น” โดยชี้ว่าเพื่อปกป้องความปลอดภัยในชีวิตของเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานโดยยกตัวอย่างไปถึง เครื่องช็อตไฟฟ้า และกล่าวต่อว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นอาวุธที่ไม่ทำให้ถึงแก่ชีวิตทั้งสิ้น แต่สามารถลดความเสี่ยงการเกิดเหตุไม่คาดฝันในบางสถานการณ์ที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธปืน

ทั้งนี้ในวันพุธ(24) โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนได้ตั้งคำถามถึงรายงานที่ถูกเปิดเผยเกี่ยวข้องกับสถานกักกันมุสลิมอุยกูร์ในซินเจียง แต่ไม่ได้ให้คำปฎิเสธอย่างเจาะจง

“ดิฉันต้องการแสดงข้อสงสัยถึงสถานการณ์ที่พวกคุณกล่าวมานั้นว่าเป็นจริง” และเสริมต่อว่า “ดิฉันหวังว่าคุณจะคิดถึงในสิ่งที่เจ้าหน้าที่จีนได้กล่าวและสิ่งที่สื่อมวลชนจีนรายงาน”

บีบีซีรายงานโดยอ้างการวิเคราะห์จาก GMV บริษัทอวกาศนานาชาติที่มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์สิ่งปลูกสร้างโดยภาพถ่ายที่มาจากอวกาศ และได้เคยทำงานให้กับองค์การสำรวจอวกาศยุโรป และสหภาพยุโรปมาแล้ว

โดยสื่ออังกฤษชี้ว่า ในการวิเคราะห์สิ่งปลูกสร้างที่เรียกว่าค่ายกักกัน หรือศูนย์ฝึกอาชีพทั่วทั้งเขตซินเจียง ทาง GMV ชี้ว่าน่าจะมีราว 101 แห่งโดยอ้างอิงจากการรายงานสื่อ และสถาบันวิจัยทางการศึกษาเกี่ยวกับการปรับทัศนคติของจีน

ในการวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ เป็นต้นว่า ความคล้ายคลึงทางสิ่งปลูกสร้าง เป็นต้นว่าหอคอยของผู้คุมบนกำแพงสูง รั้วรักษาความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ใช้ในการควบคุมการเคลื่อนที่ของฝูงชน

จากทั้งหมดทำให้มีการพบว่า “มีจำนวน 44 แห่งถูกจัดในขั้นความปลอดภัยสูงหรือค่อนข้างสูง” และได้มีการพล็อตจากการปรากฎทางภาพถ่ายดาวเทียวครั้งแรกของค่ายกักกันหรือคุกในแต่ละแห่งทั้ง 44 แห่งนี้เพื่อทำการวิเคราะห์โครงสร้างอย่างละเอียดของสิ่งปลูกสร้างหลังจากนี้
ภาพจากรายงานเชิงสอบสวนที่ทางบีบีซีส่งผู้สื่อข่าวลงพื้นที่



คุกลับกลางทะเลทรายแห่งใหม่ของซินเจียง



กำลังโหลดความคิดเห็น