เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นประธานในพิธีเปิดสะพานข้ามทะเลยาวที่สุดในโลก ซึ่งเชื่อมต่อฮ่องกงและมาเก๊าเข้ากับจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อวันอังคาร (23 ต.ค.) บรรดาผู้สนับสนุนต่างยกย่องว่านี่เป็นผลงานทางวิศวกรรมซึ่งทรงความสำคัญยิ่งทางเศรษฐกิจและการเมือง ขณะที่พวกคัดค้านแซะว่าสิ้นเปลืองใช้งานได้ไม่เต็มที่l
สะพานความยาว 55 กิโลเมตร มีทั้งส่วนที่เป็นสะพาน และอุโมงค์ใต้น้ำ รวมทั้งเกาะเทียม 2เกาะแห่งนี้ เชื่อมโยงเขตบริหารพิเศษฮ่องกง กับเมืองจูไห่ทางตอนใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่ และเขตบริหารพิเศษมาเก๊า อันเป็น 3 เมืองสำคัญในบริเวณปากแม่น้ำจูเจียง
สีเป็นประธานพิธีเปิดสะพานอย่างเป็นทางการพร้อมกับผู้นำจากฮ่องกงและมาเก๊า ณ ท่าเรือใหม่ในจูไห่ โดยประมุขแดนมังกรกล่าวสั้นๆ เพียงว่า “ผมขอประกาศเปิดสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊าอย่างเป็นทางการ” จากนั้นมีการพลุดิจิตอลเปล่งประกายเจิดจ้าบนหน้าจอมอนิเตอร์ด้านหลัง และสีเดินลงจากเวที
ผู้สนับสนุนสะพานระดับหมื่นล้านแห่งนี้เชื่อว่า สะพานใหม่เป็นผลงานวิศวกรรมอันน่าทึ่งที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจและย่นระยะเวลาเดินทางจากหลายชั่วโมงเหลือเพียง 30 นาที
รองนายกรัฐมนตรีหาน เจิ้งของจีน ระบุว่า สะพานแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเกรทเตอร์ เบย์ แอเรีย เพื่อสร้างฮับเศรษฐกิจเชื่อมโยง 9 เมืองทางใต้ของจีนกับฮ่องกงและมาเก๊า
แคร์รี ลัม ผู้นำฮ่องกง ขานรับว่า สะพานใหม่จะแปรเปลี่ยนให้ฮ่องกงแปรสภาพจากการเป็นตัวเชื่อมโยง กลายเป็นผู้มีส่วนร่วมที่มีบทบาทมากขึ้น
สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊าเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่โครงการที่สองที่เชื่อมโยงฮ่องกงกับจีนแผ่นดินใหญ่ที่เปิดตัวภายในไม่กี่สัปดาห์นี้ หลังจากเมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งมีการเปิดตัวเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมกับเซินเจิ้นและกว่างโจว ทั้งนี้พวกสื่อตะวันตกและชาวฮ่องกงที่รังเกียจแผ่นดินใหญ่และฝักใฝ่ตะวันตกส่งเสียงวิจารณ์เช่นกันว่า ฮ่องกงกำลังส่งมอบเสรีภาพของตัวเองให้แผ่นดินใหญ่ เนื่องจากส่วนหนึ่งของสถานีปลายทางถูกกำหนดให้อยู่ในเขตอำนาจศาลของจีน
สำหรับส่วนหลักของสะพานแห่งใหม่ถือว่า อยู่บนดินแดนจีน แม้ร่างพิมพ์เขียวฉบับดั้งเดิมระบุว่า ฮ่องกงออกค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างอย่างน้อยครึ่งหนึ่งก็ตาม
นอกจากนั้น รถยนต์และคนขับของฮ่องกงที่จะใช้สะพานใหม่ยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของจีนที่จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันพุธ (24)
ผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนตัวของฮ่องกงต้องผ่านเกณฑ์ที่เคร่งครัด อาทิ มีตำแหน่งในรัฐบาลจีน หรือบริจาคเงินจำนวนมากให้มูลนิธิการกุศลในกวางตุ้ง เพื่อให้ได้รับอนุญาตใช้สะพานใหม่เดินทางเข้าสู่จูไห่ ดังนั้น จึงเป็นที่คาดว่า คนส่วนใหญ่จะเดินทางด้วยรถโค้ชและรถบัสแทนรถยนต์ส่วนตัว
สื่อฮ่องกงยังรายงานว่า คนขับรถบัสจะถูกกล้องตรวจจับตลอดเวลา ถ้าหาวเกิน 3 ครั้งใน 20 วินาที ระบบจะส่งสัญญาณเตือนทันที
อย่างไรก็ดี สำหรับชาวเมืองจูไห่ สะพานนี้หมายถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจและความภาคภูมิใจในชาติ
สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊าเริ่มก่อสร้างในปี 2009 และต้องเผชิญปัญหามากมาย เช่น ความล่าช้า งบประมาณบานปลาย การฟ้องร้องคดีทุจริต และการเสียชีวิตของคนงานก่อสร้าง
ต้นทุนค่าก่อสร้างทั้งหมดไม่มีการเปิดเผยอย่างชัดเจน แต่มีบางคนประเมินว่า น่าจะเกิน 14,400 ล้านดอลลาร์
วิลลี ลัม นักวิเคราะห์การเมืองมองว่า การที่สีเป็นประธานเปิดตัวสะพานแห่งนี้สะท้อนว่า ผู้นำจีนสนับสนุนการรวมเศรษฐกิจและการเมืองของฮ่องกงเข้าเป็นส่วนหนึ่งของบริเวณลุ่มแม่น้ำจูเจียง ซึ่งถือเป็นขั้วการเติบโตใหม่ของจีน
ลัมสำทับว่า เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นขณะที่จีนอยู่ในช่วงการฉลองครบรอบ 40 ปีการปฏิรูปเศรษฐกิจ ท่ามกลางความท้าทายสำคัญมากมาย ซึ่งรวมถึงสงครามการค้ากับอเมริกา