xs
xsm
sm
md
lg

In Pics:กองทัพคาราวานผู้อพยพจากอเมริกากลางมุ่งเข้าสหรัฐฯ ตอนนี้ข้ามจากกัวเตมาลาเข้าเม็กซิโกแล้วจ้า

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซีส์ - กลุ่มผู้อพยพชาวอเมริกากลางที่มีไมต่ำกว่า 3,000 คนยังคงมีจุดหมายมุ่งหน้าเข้าสู่สหรัฐฯล่าสุดสามารถข้ามฝั่งจากกัวเตมาลาเข้าสู่เม็กซิโกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ตำรวจปราบจลาจลแดนจังโก้ในชุดปราบฝูงชนครบชุดตั้งด่านรอกลางถนนไฮเวย์รับมือกองคาราวานมุ่งหน้าขึ้นเหนือ ส่วนทรัมป์เดือด ประกาศประณามฝูงผู้อพยพ พร้อมข่มขู่ที่จะสั่งปิดชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกหากว่าผู้อพยพไม่ยอมหันหลังกลับ

DW สื่อเยอรมันรายงานเมื่อวานนี้(21 ต.ค)ว่า พบว่ากลุ่มผู้อพยพคาราวานจากอเมริกากลางที่มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 3,000 คน ในวันอาทิตย์(21 ต.ค)เดินทางมาถึงเมืองตาปาชูลา(Tapachula ) ของเม็กซิโกหลังจากต้องใช้เวลาเดินเท้าเป็นเวลานานร่วมหลายชั่วโมงจากพรมแดนกัวเตมาลา

ในขณะเดียวกับนบนถนนไฮเวย์เส้นหลัก พบตำรวจปราบจลาจลเม็กซิโกพร้อมอาวุธกันฝูงชนจำนวนไม่กี่ร้อยคนยืนตั้งด่านเพื่อรอกองทัพคาราวานผู้อพยพที่กำลังเดินหน้าขึ้นเหนือ

ซึ่งบางส่วนของกองคาราวานที่ส่วนใหญ่มาจากฮอนดูรัสผ่านจุดข้ามแดนอย่างเป็นทางการโดยการข้ามสะพานแม่น้ำ ซูชิอาเต(Suchiate River)

แต่มีจำนวนมากพบว่าทำการข้ามพรมแดนเข้าไปอย่างผิดกฎหมาย ด้วยการว่ายน้ำข้ามฝั่ง หรือนั่งบนแพที่สร้างขึ้น

ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทราบข่าวความคืบหน้าการเดินมาร์ชของกลุ่มผู้อพยพชาวอเมริกากลางถึงกับหัวเสีย และกล่าวประณามคนเหล่านี้ พร้อมทั้งยังข่มขู่จะออกคำสั่งที่จะปิดพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก หากว่ายังไม่มีการหันหลังกลับ

โดยในแถลงการณ์ผ่านทางทวิตเตอร์ ทรัมป์กล่าวว่า

“ความพยายามอย่างเต็มที่ถูกใช้เพื่อหยุดจำนวนที่ล้นหลามของต่างด้าวผิดกฎหมายจากการข้ามเข้ามาทางพรมแดนด้านใต้ของเรา ผู้อพยพจำเป็นต้องลงทะเบียนเพื่อขอลี้ภัยในเม็กซิโกเสียก่อน และหากไม่ทำเช่นนั้นทางสหรัฐฯจะทำการปฎิเสธ ในขณะนี้ทางศาลกำลังร้องขอสหรัฐฯให้กระทำในสิ่งที่ไม่สามารถทำได้!”

ด้านหนึ่งในผู้นำกองควาราวานผู้อพยพ โรดริโก อาเบฮา ( Rodrigo Abeja )ได้เปิดใจกับเอพีว่า “ทางเรายังไม่รู้เอย่างแน่นอนว่า พวกเราจะสามารถไปจนถึงพรมแดนสหรัฐฯได้สำเร็จหรือไม่ แต่ทางเราจะพยายามไปให้ไกลที่สุดมากที่จะทำได้”

ซึ่งพบว่าในการที่จะทำเช่นนั้นทางกองทัพคาราวานจากอเมริกากลางต้องเดินทางไกลไม่ต่ำกว่า 2,000 ก.ม เพื่อไปให้ถึงพรมแดนสหรัฐฯ

DW รายงานว่า ในวันเสาร์(20)ก่อนหน้า พบว่าเจ้าหน้าที่เม็กซิกันปฎิเสธที่จะยอมให้กองคาราวานผู้อพยพจำนวนมหาศาลสามารถข้ามพรมแดนออกมาจากฝั่งกัวเตมาลา แต่กลับกลายเป็นว่ามีจำนวนกลุ่มย่อยๆแค่ 640 คนได้รับอนุญาตให้ผ่านทางจุดข้ามแดนทางการข้ามแม่น้ำซูชิอาเต

โดยทางเจ้าหน้าที่เม็กซิกันเตือนว่า ใครก็ตามที่ข้ามพรมแดนเข้าไปอย่างผิดกฎหมายอาจต้องเผชิญหน้าจากการถูกเนรเทศออกนอกประเทศ และกระบวนการที่ช้าลงสำหรับกลุ่มผู้อพยพจำนวนมากหมายถึง มีผู้อพยพอีกนับพันคนยังคงติดอยู่บนสะพาน

สื่อเยอรมันชี้ว่า ทางเจ้าหน้าที่เม็กซิกันอ้างว่า มีความจำเป็นต้องยื่นเอกสารการร้องขอสิทธิลี้ภัยแบบเฉพาะตัวของแต่ละคนทำให้ล่าช้า เพื่อที่จะสามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศได้ และในเวลานี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าคำร้องขอของคนเหล่านี้จะถูกอนุมัติหรือไม่

ด้านสื่อท้องถิ่นกัวเตมาลารายงานวันอาทิตย์(21)ว่า มีจำนวนผู้อพยพอีกร่วม 1,000 คนกำลังมุ่งหน้าไปยังพรมแดนเม็กซิโก

รัฐมนตรีมหาดไทยเม็กซิโกออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางเม็กซิโกและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรัฐชิอาปัส(Chiapas ) รับผิดชอบจัดหาอาหารและยารักษาโรคให้กับเหล่าผู้อพยพ รวมไปถึงการให้คำแนะนำทางกฎหมายสำหรับผู้ที่ยื่นขอลี้ภัยในเม็กซิโก

ส่วนรัฐบาลกัวเตมาลาไม่นิ่งดูดาย ได้จัดขบวนรถบัสเพื่อนำผู้อพยพกลับไปยังประเทศบ้านเกิดฮอนดูรัส ซึ่งมีการประมาณเบื้องต้นว่า มีผู้อพยพจำนวน 300 คนยอมตอบรับข้อเสนอนี้

สื่อเยอรมันชี้ว่า กองทัพคาราวานผู้อพยพอเมริกากลางเริ่มต้นมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เดินทางจากเมืองซาน เปโดร ซูลา (San Pedro Sula) ทางเหนือของฮอนดูรัส และพบว่ามีจำนวนผู้อพยพสมทบมากขึ้นตามรายทางระหว่างการเคลื่อนขบวนผ่านกัวเตมาลามุ่งหน้าสู่เม็กซิโก

















กำลังโหลดความคิดเห็น