เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอตช์ - ราคาน้ำมันร่วงลงมากกว่า 4% ในวันพฤหัสบดี (18 ต.ค.) ยังถูกกดดันจากข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองของสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งหนักและทองคำปิดบวก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกา กับซาอุดีอาระเบีย ต่อกรณีการหายตัวไปและสงสัยว่าอาจถูกฆาตกรรมไปแล้วของสื่อมวลชนผู้วิพากษ์วิจารณ์ริยาด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 76 เซนต์ ปิดที่ 79.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันในวันพฤหัสบดี (18 ต.ค.) ปิดลบต่อเนื่องมาจากเมื่อวันพุธ (17 ต.ค.) นับตั้งแต่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (อีไอเอ) รายงานว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 ต.ค. เพิ่มขึ้นถึง 6.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดหมายไว้อย่างมากและเป็นการเพิ่มขึ้น 4 สัปดาห์ติด
ข้อมูลดังกล่าวคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานตึงตัว จากกรณีที่สหรัฐฯเตรียมกลับมาคว่ำบาตรภาคพลังงานของอิหร่านอีกครั้งในเดือนหน้า
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี (18 ต.ค.) ดิ่งลง โดยดาวโจนส์ร่วงลงถึง 327 จุด จากความกังวลที่มากขึ้นต่อความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับซาอุดีอาระเบีย หลังต้องสงสัยว่า จามาล คาช็อกกี คอลัมนิสต์คนสำคัญอาจถูกฆาตกรรมไปแล้ว เช่นเดียวกับความวิตกในยูโรโซน สืบเรื่องจากแผนงบประมาณอันเป็นที่ถกเถียงของอิตาลี
ดาวโจนส์ ลดลง 327.23 จุด (1.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,379.45 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 40.43 จุด (1.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,768.78 จุด แนสแดค ลดลง 157.56 จุด (2.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,485.14 จุด
วอลล์สตรีทเปิดตลาดในแดนลบ จากนั้นก็ร่วงลงหนักขึ้นอีกในช่วงครึ่งวัน หลัง สตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ แถลงถอนตัวจากการประชุมซัมมิตด้านการลงทุนในซาอุดีอาระเบีย สัญญาณที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดว่ารัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเว้นระยะห่างจากริยาด นับตั้งแต่การหายตัวไปของ คาช็อกกี เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกัน มีข่าวว่า มาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป บอกกับเหล่าผู้นำอียู ณ ที่ประชุมในบรัสเซลส์ ว่า ประเทศต่างๆ ควรยึดถือกฎระเบียบด้านงบประมาณของอียู ความคิดเห็นที่ดูเหมือนเป็นการด่ากระทบไปยังอิตาลี ซึ่งมีแผนเพิ่มการใช้จ่ายขาดดุลงบประมาณสูงลิ่ว
ข้อตกลงเกี่ยวกับอียูและซาอุดีอาระเบียซ้ำเติมความกังวลของนักลงทุนที่มีอยู่ก่อนแล้ว จากอัตราดอกเบี้ยระดับสูงของสหรัฐฯ และข้อพิพาททางการค้าต่างๆ นานา ซึ่งเหล่านี้บดบังรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากบริษัทต่างๆ
การดิ่งลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ส่งผลให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (18 ต.ค.) ปิดลบเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,230.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์