xs
xsm
sm
md
lg

‘พอมเพโอ’ เผยซาอุฯ รับปากสืบเรื่อง ‘คาช็อกกี’ อย่างเต็มที่ แต่ไม่ฟันธงยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้รับคำยืนยันจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบียว่าจะสืบหาความจริงเกี่ยวกับหายตัวไปของ จามาล คาช็อกกี (Jamal Khashoggi) อย่างเต็มที่ ก่อนที่เขาจะเดินทางต่อไปยังตุรกีในวันนี้ (17 ต.ค.)

พอมเพโอ จะเข้าพบประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกีที่กรุงอังการา หลังผ่านไปราวๆ 2 สัปดาห์จากวันที่ คาช็อกกี เข้าไปในสถานกงสุลซาอุฯ ที่นครอิสตันบูลเพื่อทำเรื่องขอจดทะเบียนสมรส และไม่ได้กลับออกมาอีก

ก่อนหน้านั้น ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้เสนอให้ ‘ยกประโยชน์แห่งความสงสัย’ แก่ซาอุดีอาระเบียไปก่อนจนกว่าจะทราบข้อเท็จจริง สวนทางกับสมาชิกสภาคองเกรสที่ต่างชี้นิ้วกล่าวโทษผู้นำริยาดว่าอยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของ คาช็อกกี ขณะที่โลกตะวันตกก็เริ่มกดดันซาอุฯ ให้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้

พอมเพโอ ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุฯ รวมถึงเจ้าชายโมฮัมเหม็ด มกุฎราชกุมาร และรัฐมนตรีต่างประเทศของริยาด

“ในการพูดคุยแต่ละครั้ง ผมย้ำทุกครั้งว่าพวกเขาจำเป็นต้องสอบสวนอย่างจริงจังว่า คาช็อกกี หายไปได้อย่างไร ซึ่งพวกเขาก็รับปากว่าจะทำ” พอมเพโอ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนขณะขึ้นเครื่องบินมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงตุรกี

“พวกเขายืนยันว่าจะสอบสวนอย่างละเอียดรอบคอบ สมบูรณ์แบบ และโปร่งใส... พวกเขาเข้าใจว่าจะต้องสืบคดีนี้ให้รู้ผลโดยเร็ว เพื่อจะได้ตอบคำถามสำคัญๆ ที่ทุกคนอยากทราบ”

เจ้าหน้าที่ตุรกีเชื่อว่า คนของซาอุฯ ลงมือสังหาร คาช็อกกี ภายในสถานกงสุลและเคลื่อนย้ายศพออกไปแล้ว ซึ่งฝ่ายซาอุฯ ยังปฏิเสธเสียงแข็ง

คาช็อกกี ย้ายไปพำนักในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปีที่แล้ว และเขียนบทความให้กับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ เขามักจะวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลริยาดด้วยถ้อยคำเผ็ดร้อน และเรียกร้องให้การปฏิรูปในซาอุฯ

ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความว่า มกุฎราชกุมารซาอุฯ ทรงยืนยันกับตนว่าไม่รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นภายในสถานกงสุลประจำนครอิสตันบูล

“ผมว่าเราต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ผู้นำสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอพีเมื่อวานนี้ (16) “นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่คุณต้องกลายเป็นคนผิด จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าบริสุทธิ์ ซึ่งผมไม่ชอบเลย”

เจ้าชายโมฮัมเหม็ด หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่า MBS จะต้องทรงรับผิดชอบชะตากรรมของ คาช็อกกี หรือไม่นั้นถือเป็นบททดสอบสำคัญที่จะชี้วัดความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างตะวันตกกับริยาด และคำถามที่สำคัญก็คือ ตะวันตกเชื่อแค่ไหนว่าเจ้าชายทรงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอุ้มหายอย่างอุกอาจครั้งนี้

“พวกเขายืนยันจะไม่ละเว้นใครทั้งสิ้น พวกเขากล่าวชัดเจนว่าเข้าใจว่าเรื่องนี้สำคัญแค่ไหน และตั้งใจจะสืบไปให้ถึงต้นตอ” พอมเพโอ ระบุ

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คาช็อกกี ยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กลับตอบแบบเลี่ยงๆ ว่า “พวกเขาไม่ได้เอ่ยถึงข้อเท็จจริงเหล่านี้”

เจ้าชายโมฮัมเหม็ดซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาล ทรัมป์ ทรงพยายามทำพระองค์เองให้เป็นเสมือนหน้าตาของซาอุดีอาระเบียยุคใหม่ที่มีชีวิตชีวา โดยปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจให้ลดการพึ่งพาน้ำมัน และปฏิรูปสังคมสู่ความทันสมัย

แต่ถึงกระนั้น นโยบายบางอย่างของพระองค์ก็ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เช่น การทำสงครามในเยเมน, การจับกุมนักเคลื่อนไหวสตรี และข้อพิพาทการทูตกับแคนาดา เป็นต้น ไม่รวมเรื่องที่ฝรั่งเศสกล่าวหาซาอุฯ ว่ากักขังนายกรัฐมนตรี สะอัด อัล-ฮารีรี ของเลบานอนไว้เป็นตัวประกันเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว

แม้ชาติตะวันตกจะเป็นกังวลเรื่องปัญหาสิทธิมนุษยชนในซาอุดีอาระเบีย แต่ ทรัมป์ ยังยืนกรานจะไม่ยกเลิกข้อตกลงจำหน่ายอาวุธให้ริยาด
กำลังโหลดความคิดเห็น